พิจิตร - ก.แรงงาน จัดงบ 8 ล้านฝึกอาชีพชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลายนาข้าวหวังให้มีอาชีพเสริมตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง หลังว่างจากฤดูทำนา ลดการอพยพแรงงานเข้าเมืองหลวง
นายดำรงศักดิ์ แก้วทองคำ แรงงานจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของกรมการปกครองและท้องถิ่น อบต. , เทศบาล ได้ร่วมกันจัดวิทยากรเพื่อฝึกอาชีพให้แก่เกษตรกรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของกระทรวงแรงงาน ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านวังโป่ง ตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม ตามที่ ก.แรงงาน มีนโยบายต้องการให้ชาวบ้านมีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ ด้วยการส่งวิทยากรไปให้ความรู้ทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติหลากหลายอาชีพ ซึ่งกลุ่มชาวบ้านให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้แรงานฯพิจิตร ตั้งเป้าหมายฝึกอาชีพให้ราษฎรจาก12 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทำลายผลผลิตในนาข้าว จำนวน 3 พันคน นำร่องที่อำเภอสามง่าม ซึ่งเป็นการฝึกอาชีพทำเปลญวน โดยใช้วัสดุสังเคราะห์
นางสวยงาม ทองดรอ่ำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม กล่าวว่า คนในหมู่บ้านที่ว่างจากการทำนาต้องการมีอาชีพเสริม และมีความสนใจในเรื่องของการทำเปลญวนจากวัสดุสังเคราะห์ เพราะมีความเหนียว ทนทาน มีแหล่งรับซื้อที่แน่นอน จึงได้รวมกลุ่มกันในหมู่บ้านจำนวน 50 คน มาฝึกทำ อีกทั้งวิธีการทำก็ง่าย เด็ก , สตรี ,ผู้สูงอายุ ก็สามารถทำได้ วัสดุที่ใช้ก็มีเพียงเศษวัสดุเส้นใยสังเคราะห์ที่ต้องสั่งซื้อมาจากกลุ่มแม่บ้านหนองสะเดา ที่ฝึกทำอาชีพจนประสบความสำเร็จมาแล้ว และเป็นเครือข่ายกัน
นอกจากนั้นก็ใช้อุปกรณ์ที่หาได้ในท้องถิ่น เช่นไม้ไผ่ แล้วก็ฝึกถักและมัดปมเป็นเปลญวน ให้เกิดความสวยงาม หากทำได้เป็นเปลญวนที่สมบรูณ์แล้วก็จะส่งขายให้กับกลุ่มแม่บ้านหนองสะเดา ได้ในราคาชิ้นละ 70 - 80 บาท เพื่อนำไปขายปลีกอีกต่อหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านที่ทำเปลจนชำนาญแล้วสามารถทำเปลญวนได้ถึงวันละ 4 ชิ้นงาน
สำหรับโครงการฝึกอบรมอาชีพในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงแรงงานเป็นเงิน 8 ล้านบาท ทั้งค่าวัสดุอุปกรณ์ในการฝึก และค่าตอบของวิทยากร ตลอดจนผู้ที่มาเข้ารับการฝึกอบรม ก็จะได้เบี้ยเลี้ยงในการอบรมวันละ 160 บาท ค่าเดินทางอีกวันละ 30บาท ซึ่งใช้เวลาในการอบรม ภาคทฤษฎี 3 วัน ภาคปฏิบัติ 5 วัน รวมทั้งสิ้น 8 วัน ซึ่งถือเป็นความบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาที่ประสบภัยพิบัติเพลี้ยกระโดดทำลายนาข้าว แถม หลังจากอบรมเสร็จแล้ว ชาวบ้านก็สามารถยึดเป็นอาชีพหลัก หรือจะทำเป็นอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้หลังจากที่ว่างจากการทำนาตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงได้อีกด้วย
