กาฬสินธุ์- กลุ่มงานกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จัดโครงการต้นกล้าอาชีพ นำผู้ปกครองเด็กออทิสติกฝึกอมรมอาชีพสร้างรายได้ นำร่องด้วยโครงการฝึกสานกระติบข้าว ซึ่งได้รับความสนใจจากครอบครัวเด็กออทิสติก เข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก
ที่ห้องปฏิบัติการ กลุ่มงานกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นางอาทิตยา ศิริรักษ์ นักวิชาการศึกษาพิเศษ กล่าวว่า กลุ่มงานกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โดยมี นางสมคิด สุทธิพรม เป็นหัวหน้างานได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักนายกรัฐมนตรีและสมาคมผู้ปกครองเด็กออทิสซึม (ประเทศไทย) และ นพ.สมปอง เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ สำหรับจัดโครงการต้นกล้าอาชีพ
โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ เป็นผู้ปกครองของเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและภูมิปัญญา เข้าร่วมโครงการ 30 คน มีการจัดอบรมอาชีพอิสระที่หลากหลาย เพื่อเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ นำร่องด้วยอาชีพสานกระติบข้าว ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากจัดทำง่าย และจำหน่ายในราคาสูง ชิ้นละ 70-1,000 บาท
ด้าน นายประวัติ สิงห์เกื้อ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 153 หมู่ 3 บ้านนาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนนำบุตรเข้ารับการบำบัดรักษาที่คลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ 4 ปี ทำให้บุตรมีการพัฒนาร่างกายดีขึ้น ประกอบกับที่ตนมีความสามารถในการจักสาน โดยเฉพาะการสานกระติบข้าว จึงได้รับมอบหมายให้เป็นวิทยากร ฝึกสานกระติบข้าวให้กับเพื่อนผู้ปกครองเด็กออทิสติก ผลดีจากโครงการดังกล่าว
นอกจากจะเป็นการฝึกอาชีพ เพื่อสร้างอาชีพเสริมและเพิ่มรายได้แล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะและประสบการณ์ ในการดูแลบุตรหลานที่พัฒนาการล่าช้า ให้มีพัฒนาการดีขึ้น ตลอดทั้งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัวเด็กออทิสติกให้มีรายได้ และใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
ที่ห้องปฏิบัติการ กลุ่มงานกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ นางอาทิตยา ศิริรักษ์ นักวิชาการศึกษาพิเศษ กล่าวว่า กลุ่มงานกระตุ้นพัฒนาการเด็ก โดยมี นางสมคิด สุทธิพรม เป็นหัวหน้างานได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักนายกรัฐมนตรีและสมาคมผู้ปกครองเด็กออทิสซึม (ประเทศไทย) และ นพ.สมปอง เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ สำหรับจัดโครงการต้นกล้าอาชีพ
โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ เป็นผู้ปกครองของเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและภูมิปัญญา เข้าร่วมโครงการ 30 คน มีการจัดอบรมอาชีพอิสระที่หลากหลาย เพื่อเป็นอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ นำร่องด้วยอาชีพสานกระติบข้าว ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากจัดทำง่าย และจำหน่ายในราคาสูง ชิ้นละ 70-1,000 บาท
ด้าน นายประวัติ สิงห์เกื้อ อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 153 หมู่ 3 บ้านนาวี ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนนำบุตรเข้ารับการบำบัดรักษาที่คลินิกกระตุ้นพัฒนาการเด็กโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ 4 ปี ทำให้บุตรมีการพัฒนาร่างกายดีขึ้น ประกอบกับที่ตนมีความสามารถในการจักสาน โดยเฉพาะการสานกระติบข้าว จึงได้รับมอบหมายให้เป็นวิทยากร ฝึกสานกระติบข้าวให้กับเพื่อนผู้ปกครองเด็กออทิสติก ผลดีจากโครงการดังกล่าว
นอกจากจะเป็นการฝึกอาชีพ เพื่อสร้างอาชีพเสริมและเพิ่มรายได้แล้ว ยังเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะและประสบการณ์ ในการดูแลบุตรหลานที่พัฒนาการล่าช้า ให้มีพัฒนาการดีขึ้น ตลอดทั้งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของครอบครัวเด็กออทิสติกให้มีรายได้ และใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
