xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกฟ้อง“อัมรินทร์ ยี่เฮง”‏

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สระแก้ว- ศาลยกฟ้อง“อัมรินทร์ ยี่เฮง” กรณีถูก กกต.จังหวัดสระแก้ว ฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา

จากกรณีนายอัมรินทร์ ยี่เฮง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย เมืองสระแก้ว ซึ่งเป็น 1 ใน 85 นักรบศรีวิชัยที่เดินเท้าไปบุกสถานีโทรทัศน์ NBT ว่า ทางคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว ได้ประสานไปยัง ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว เพื่อแจ้งความฟ้องร้องในข้อหาหมิ่นทำให้เสียชื่อเสียงประมาทด้วยการประกาศและโฆษณา

ล่าสุดคำพิพากษากรณีถูก กกต.จังหวัดฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของโจทย์และจำเลยแล้วข้อเท็จจริง เบื้องต้นฟังได้ว่าพันเอกสุริยามีชื่อว่ายา นายศรันรักษ์ มีชื่อว่าต้อย นายยุทธนา มีชื่อว่า แดง นายสำเนียง มีชื่อว่า เนียง นางสาวอรนุช มีชื่อว่า นุช

ทั้งห้าเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว ตามวันและเวลาดังกล่าว จำเลยนำใบปลิวขนาดกระดาษ A4 ไปแจกที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสระแก้ว ใบปลิวมีข้อความว่าประกาศบุคคลอันตรายทางการเมือง ใต้ข้อความมีรูปผู้เสียหายทั้งห้า และชื่อเล่นของผู้เสียหายทั้งห้านำหน้าด้วนคำว่าเสือ และมีข้อความด้านล่างว่า ทำงานล่าช้าปล่อยให้โจรการเมืองเข้าไปปล้นประเทศ ร่วมกันประณามอาชญากรรมทางการเมือง

คดีมีปัญหาต้องวินิฉัยว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่าถ้อยคำหรือข้อความใดจะทำให้ผู้ที่ถูกใส่ความต้องเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง มิใช่จะพิจารณาหรือวัดจากความรู้สึก และความเข้าใจของผู้ถูกใส่ความเป็นสำคัญแต่อย่างใด เพราะอารมณ์และความรู้สึกย่อมมีที่มาจากความเห็นแก่ตัวของแต่ละบุคคลแตกต่างกัน

ดังนั้น การจะพิจารณาว่าถ้อยคำหรือข้อความใดจะเป็นการใส่ความผู้อื่น จนทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง หรือไม่จำต้องพิจารณาจากการรับรู้ถึงอารมณ์ ความรู้สึก และความเข้าใจถ้อยคำหรือข้อความของวิญญูชนทั่วๆไปเป็นเกณฑ์ที่จะรับฟังว่าเป็นการหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา ม.326 และม. 328 หรือไม่จำเลยเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ทำงานด้านการเมือง สอดส่องการทำงานของหน่วยงานราชการและนักการเมือง

รวมตลอดถึงปัญหาการคอรัปชั่น จำเลยย่อมแสดงความคิดเห็น ตำหนิติชม และวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของข้าราชการและนักการเมืองไปตามข้อมูลไปตามข้อมูลและความคิดเห็นของตนถ้อยคำว่าประกาศ...บุคคลอันตรายทางการเมือง เมื่ออ่านแล้วแม้ดูเหมือนว่าบุคคลตามประกาศ เป็นบุคคลอันตรายในทางการเมือง แต่ในทางการเมืองจะถือความหมายของถ้อยคำนั้นเคร่งครัดตามตัวอักษรเสียทีเดียวย่อมไม่ได้

ผู้เสียหายทั้งห้าเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดที่รับผิดชอบ ถือเป็นบุคคลที่ให้คุณให้โทษแก่นักการเมือง ข้อความดังกล่าวไม่อาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดไปได้ว่าผู้เสียหายทั้ง เป็นคนไม่ดีหรือไม่ควรคบหาตามที่โจทย์นำสืบ

การที่จำเลยทำภาพหน้าผู้เสียหายทั้งห้า โดยสวมเสื้อลายขวางและมีส่วนสูงกำกับ มีลักษณะคล้ายกับพวกนักโทษหรือประกาศจับผู้ร้ายอยู่บ้าง แต่ภาพดังกล่าวจำเลยทำขึ้นโดยการตัดแต่งภาพตามความคิดและจินตนาการของจำเลยเท่านั้น ที่จำเลยใช้คำว่า เสือนำหน้าชื่อเล่นของผู้เสียหายทั้งห้า แม้คำว่าเสือจะเป็นสัตว์ดุร้าย มิใช่คำนำหน้าชื่อที่บุคคลทั่วไปนิยมใช้ แต่ก็อาจมีความหมายว่าเป็นผู้เก่งกล้า

จึงยังไม่อาจฟังโดยถนัดว่าจำเลยมีเจตนาสื่อความหมายให้บุคคลที่สามเข้าใจว่า ผู้เสียหายเป็นนักโทษ หรือผู้ร้ายตามภาพถ่ายที่ปรากฏนั้น แต่จำเลยทำขึ้นโดยเจตนาเพียงเพื่อล้อเลียนผู้เสียหายทั้งห้าเท่านั้น ไม่อาจทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิดไปได้ว่าผู้เสียหายทั้ง เป็นนักโทษ หรือผู้ร้าย หรืออันธพาลชอบทำผิดกฎหมายเป็นภัยต่อผู้อื่น

ส่วนข้อความว่า ทำงานล่าช้าปล่อยให้โจรการเมืองเข้าไปปล้นประเทศ โจทก์นำสืบว่าเป็นการกล่าวหาผู้เสียหายทั้งห้าว่าทำงานล่าช้า ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ จัดการเลือกตั้งโดยไม่สุจริตปล่อยให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งได้รับการเลือกตั้งเข้าไปบริหารประเทศโดยมิชอบ

แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ความว่า จำเลยเคยร้องเรียนผู้เสียหายทั้งห้า และคัดคานผู้สมัครรับเลือกตั้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้วชุดที่ผู้เสียหายทั้งห้าเป็นคณะกรรมการแล้วจำเลยได้รับแจ้งผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการการเลือกตั้งล่าช้า และยังเคยร้องคัดค้านการเลือกตั้งแล้วคณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองผลไปก่อน

การสืบสวนของคณะกรรมการการเลือกตั้งในเรื่องที่ร้องคัดค้านยังไม่เสร็จ เป็นผลให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ถูกคัดค้านเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ จึงอาจเป็นเรื่องที่ทำให้จำเลยเข้าใจไปได้ว่าการที่ได้ผู้สมัครที่ถูกคัดค้านหรือได้นักการเมืองไม่ดีเข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีสาเหตุมาจากการปฏิบัติงานล่าช้าหรือความไม่สามรถของผู้เสียหายทั้งห้า ที่จำเลยใช้คำทำนองว่าผู้เสียหายปล่อยให้โจรการเมืองเข้าไปปล้นประเทศนั้น น่าจะเป็นความคิดเห็นของจำเลยในเชิงตำนิว่าผู้เสียหายทั้งห้า มีส่วนให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่มีปัญหาเข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง

อันจะส่งผลเสียต่อประเทศมากกว่าเป็นการกล่าวหาผู้เสียหายทั้งห้าปฏิบัติหน้าโดยทุจริตแม้จำเลยใช้ข้อความต่อมาว่า อาชญากรรมทางการเมือง ซึ่งมีความหมายตามถ้อยคำทำนองว่าเป็นการกระทำความผิดในทางการเมืองด้วย แต่จะถือเคร่งครัดว่าข้อความดังกล่าวเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าผู้เสียหายเป็นอาชญากร กระทำความผิดในทางการเมืองตามการนำสืบของโจทก์ยังไม่ได้ เพราะอาจเป็นความเข้าใจของจำเลยเองว่า การกระทำของผู้เสียหายทั้งห้าที่ทำงานล่าช้า และไม่มีความสามารถจนเป็นเหตุให้คนไม่ดีเข้าไปบริหารประเทศว่า การกระทำเช่นนี้เรียกว่าอาชญากรรมทางการเมืองก็ได้ ถึงถ้อยคำจะมีความหมายรุนแรงและไม่เหมาะสมไปบ้างก็เป็นการติชมผู้เสียหายทั้งห้าด้วยความเป็นธรรม ไม่อาจทำให้บุคคลที่สามอ่านเข้าใจผิดไปได้ว่าผู้เสียหายทั้งห้าเป็นผู้กระทำความผิด หรือประพฤติชั่ว หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริต ทั้งใบปลิวก็ไม่มีข้อความตอนใด เป็นการกล่าวหาว่าผู้เสียหายทั้งห้ากระทำการไม่สุจริตหรือกระทำผิดในเรื่องใด

กรณีนี้เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายมีความรู้สึกและเข้าใจไปเองว่าผู้เสียหายทั้งห้าถูกกล่าวหาหรือใส่ความข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้การกระทำของจำเลยเป็นการใส่ความผู้เสียหายทั้งห้าทำให้ผู้เสียหายทั้งห้า เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จำเลยไม่มีความผิดตามฟ้องของโจทก์ และเมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำความผิดดังที่ถูกกล่าวหา การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการทำละเมิดผู้เสียหายทั้งห้า จำเลยไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายทั้งห้า พิพากษายกฟ้อง และยกคำร้องของผู้เสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น