อุบลราชธานี - ชาวบ้าน 2 ตำบล อ.วาริชำราบ จ.อุบลราชธานี โวยเจ้าหน้าที่ที่ดินขอออกโฉนดตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับการพิจารณา ด้าน จนท.แจงเอกสารชาวบ้านไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงไม่ได้รับการพิจารณาออกโฉนด
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานที่ดินอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านจาก 2 ตำบลคือ ต.โพธิ์ใหญ่ และตำบลคำขวาง อ.วารินชำราบ ประมาณ 40 คน ประท้วงขอความเป็นธรรมจากเจ้าพนักงานที่ดินกรณียื่นหนังสือขอออกโฉนดที่ดินตั้งแต่ปี 2547 กระทั่งปัจจุบันยังไม่ได้รับการอนุมัติ ทั้งที่ได้เสียเงินค่าทำเนียมรังวัดที่ดินและออกเอกสารให้กับสำนักงานที่ดินไปแล้ว
โดยแบ่งเป็นที่ดินอยู่อาศัยรายละ 1,450 บาท และที่ดินเพื่อเกษตรกรรมรายละ 2,800 บาท ทำให้ชาวบ้านที่ขอออกโฉนด ประสบปัญหาไม่สามารถนำเอกสารสิทธิไปทำธุรกรรมใดๆกับสถาบันการเงินได้
นายปาน พรมบุตร ชาวบ้านที่มาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกล่าวว่า ได้เข้ามาอาศัยอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินในตำบลคำขวางเมื่อกว่า 10 ปีก่อน โดยที่ดินที่ชาวบ้านร่วมกันขอออกโฉนดมีเนื้อที่หลายพันไร่ครอบคลุมอาณาเขต 2 ตำบล ขณะนั้นมีผู้ยื่นความจำนงออกโฉนดทั้งสิ้น 2,116 แปลง แต่การดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ที่ดินที่ผ่านมา มีการออกโฉนดให้ชาวบ้านได้บางส่วน
แต่อีกกว่า 50% ยังไม่รับการพิจารณา ทำให้ชาวบ้านอดทนรอต่อไปไม่ไหว เพราะต้องการเอกสารสิทธิไปทำธุรกรรมทางเงินกับสถาบันการเงิน เพื่อนำเงินมาใช้ประกอบเกษตรกรรม จึงมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งพิจารณาออกโฉนดให้ชาวบ้านที่เหลือทั้งหมดด้วย
ด้านนายพรเทพ ไตรวุฒิชน หัวหน้าเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดประจำอำเภอวารินชำราบระบุว่า สาเหตุที่ชาวบ้านส่วนได้รับโฉนดไปแล้ว เพราะสามารถพิสูจน์สิทธิการครอบครองได้อย่างถูกต้อง แต่ชาวบ้านบางรายมีการแจ้งออกโฉนดเนื้อที่ไม่ตรงกับเอกสารสิทธิครอบครอง (สค.1) ที่ถือครองอยู่เดิม เช่น เอกสารระบุมีที่ดินครอบครองอยู่ประมาณ 2 งาน
แต่ยื่นขอออกโฉนดเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งขั้นตอนนี้ จำเป็นต้องใช้เวลาตรวจสอบรังวัดแนวเขตที่ดินให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดเป็นปัญหาตามมาในภายหลัง
นอกเหนือจากปัญหาดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีปัญหาชาวบ้านบางรายมาขอออกโฉนดในที่ดินที่เป็นป่าสาธารณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ควบคุมดูแลอยู่ ทำให้ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิให้ได้ สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ชี้แจงให้ชาวบ้านทราบไปแล้ว
และหากมีข้อโต้แย้งสิทธิการครอบครองไม่ตรงกับทางราชการ ชาวบ้านต้องมีเอกสารหรือพยานบุคคล ที่สามารถใช้ยืนยันสิทธิการครอบครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาออกโฉนดให้ต่อไป