เชียงราย – ทหารพรานเชียงรายคลั่ง กราดยิงครอบครัวตายเจ็บระนาว ก่อนเผาบ้านทิ้งและยิงตัวเองตายตาม
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (18 ม.ค.) ร.ต.ท.ประวิทย์ วงศ์ราษฎร์ ร้อยเวร สภ.เวียงแก่น ได้รับแจ้งมีเหตุคนยิงตัวเองและเผาบ้านรวมทั้งยิงผู้อื่นเสียชีวิตรวมทั้งได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมาน ไกลพล ผกก.สภ.เวียงแก่น รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบที่เกิดเหตุมีอยู่ 2 หลังโดยเป็นบ้านไม้ยกสูงตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร หลังแรกเลขที่ 278 หมู่บ้านหัดใหม่ หมู่ 2 ต.ปอ อ.เวียงแก่น สภาพถูกไฟไหม้จนวอดเกือบทั้งหลังในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่และมีร่องรอยของคราบเลือดในที่เกิดเหตุ
ส่วนคนก่อเหตุทราบว่าคือเจ้าของบ้านเองชื่อว่า จ.ส.อ.บุญเกิด สันป่าแก้ว าอยุ 52 ปี ทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 31 เชียงคำ แต่ไปประจำการอยู่ที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นผู้เผาบ้านตัวเอง หลังจากนั้นได้ใช้ปืนดังกล่าวจ่อยิงที่หน้าผากด้านซ้ายของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาชาวบ้านได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนอีกหลังเป็นเลขที่ 70 หมู่ 2 บนบ้านพบผู้ถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บกองกันอยู่ระนาวภายในห้องโถงของบ้าน โดยแต่ละคนถูกอาวุธปืนขนาด 11 มม.กราดยิง ผู้ที่เสียชีวิตประกอบไปด้วยนายสวน หัตถกอง อายุ 49 ปี พ่อตาของ จ.ส.อ.บุญเกิด สภาพศพถูกยิงเข้าที่หน้าอกกระสุนตัดขั้วหัวใจ 1 นัด และนางหอม จันทวงศ์ อายุ 36 ปี ภรรยาของ จ.ส.อ.บุญเกิด สภาพถูกยิงเข้าที่ลำคอจนทะลุ
นอกจากนี้พบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คนคือนางแก้ว จันทวงศ์ อายุ 48 ปี แม่ยายของ จ.ส.อ.บุญเกิด และ ด.ช.บุญธรรม หัตถกอง อายุ 4 ปี -ด.ญ.โสพิตา หัตถกอง อายุ 2 ปี ทั้งคู่เป็นบุตรของ จ.ส.อ.บุญเกิด แต่ละคนถูกกระสุนปืนเฉี่ยวถูกลำตัว แขนและขา ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปตามๆ กัน จึงนำศพและผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเวียงแก่นอย่างเร่งด่วน
ต่อมา พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย สั่งการให้ พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ รอง ผบก.ภ.เชียงราย เดินทางไปตรวจสอบคดีด้วยตัวเอง ซึ่งจากการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดทราบว่า ก่อนหน้านี้ จ.ส.อ.บุญเกิด อาศัยอยู่ที่บ้านหลังแรกที่ถูกไฟไหม้ พร้อมภรรยาและบุตรทั้ง 2 คน
ส่วนพ่อตาและแม่ยาย อาศัยอยู่ที่บ้านหลังที่สอง แต่เนื่องจาก จ.ส.อ.บุญเกิด ต้องไปปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ อ.เชียงแสน จึงทำให้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านแต่จะใช้การเดินทางไปกลับนานๆ ครั้ง และเมื่อกลับบ้านบางครั้งไม่พบภรรยาอยู่บ้านทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทในทำนองหึงหวงกันอยู่เป็นประจำ ทำให้นายสวน – นางแก้ว ซึ่งเป็นพ่อตาและแม่ยาย อยากให้ทั้งคู่ทำความเข้าใจกัน ในวันเกิดเหตุจึงให้ทั้งคู่พบปะพูดคุยกัน
แต่ปรากฏว่า จ.ส.อ.บุญเกิด ได้บันดาลโทสะใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ซึ่งเจ้าหน้าที่พบในที่เกิดเหตุยิงใส่พ่อตาและภรรยาจนเสียชีวิต รวมทั้งกระสุนยังเฉี่ยวไปโดนแม่ยายและลูกๆ ซึ่งอยู่ในห้องโถงของบ้านอีกด้วย
หลังเกิดเหตุ จ.ส.อ.บุญเกิด ได้วิ่งกลับบ้านตัวเองทำให้ชาวบ้านแจ้งกับตำรวจจากนั้นทั้งตำรวจและทหารต้นสังกัดได้ช่วยกันไปเกลี้ยกล่อม จ.ส.อ.บุญเกิด ซึ่งถือปืนอยู่ในบ้านโดยใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมนานหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะ จ.ส.อ.บุญเกิด ได้จุดไฟเผาบ้านจากด้านในก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดเมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบก็พบว่าเจ้าตัวล้มลงจมกองเลือดดังกล่าวขณะที่ไฟก็โหมลุกไหม้จนบ้านวอดเกือบทั้งหลัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำร่างของ จ.ส.อ.ส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (18 ม.ค.) ร.ต.ท.ประวิทย์ วงศ์ราษฎร์ ร้อยเวร สภ.เวียงแก่น ได้รับแจ้งมีเหตุคนยิงตัวเองและเผาบ้านรวมทั้งยิงผู้อื่นเสียชีวิตรวมทั้งได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมาน ไกลพล ผกก.สภ.เวียงแก่น รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบที่เกิดเหตุมีอยู่ 2 หลังโดยเป็นบ้านไม้ยกสูงตั้งอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร หลังแรกเลขที่ 278 หมู่บ้านหัดใหม่ หมู่ 2 ต.ปอ อ.เวียงแก่น สภาพถูกไฟไหม้จนวอดเกือบทั้งหลังในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่และมีร่องรอยของคราบเลือดในที่เกิดเหตุ
ส่วนคนก่อเหตุทราบว่าคือเจ้าของบ้านเองชื่อว่า จ.ส.อ.บุญเกิด สันป่าแก้ว าอยุ 52 ปี ทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 31 เชียงคำ แต่ไปประจำการอยู่ที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เป็นผู้เผาบ้านตัวเอง หลังจากนั้นได้ใช้ปืนดังกล่าวจ่อยิงที่หน้าผากด้านซ้ายของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาชาวบ้านได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนอีกหลังเป็นเลขที่ 70 หมู่ 2 บนบ้านพบผู้ถูกยิงเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บกองกันอยู่ระนาวภายในห้องโถงของบ้าน โดยแต่ละคนถูกอาวุธปืนขนาด 11 มม.กราดยิง ผู้ที่เสียชีวิตประกอบไปด้วยนายสวน หัตถกอง อายุ 49 ปี พ่อตาของ จ.ส.อ.บุญเกิด สภาพศพถูกยิงเข้าที่หน้าอกกระสุนตัดขั้วหัวใจ 1 นัด และนางหอม จันทวงศ์ อายุ 36 ปี ภรรยาของ จ.ส.อ.บุญเกิด สภาพถูกยิงเข้าที่ลำคอจนทะลุ
นอกจากนี้พบผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 คนคือนางแก้ว จันทวงศ์ อายุ 48 ปี แม่ยายของ จ.ส.อ.บุญเกิด และ ด.ช.บุญธรรม หัตถกอง อายุ 4 ปี -ด.ญ.โสพิตา หัตถกอง อายุ 2 ปี ทั้งคู่เป็นบุตรของ จ.ส.อ.บุญเกิด แต่ละคนถูกกระสุนปืนเฉี่ยวถูกลำตัว แขนและขา ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปตามๆ กัน จึงนำศพและผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเวียงแก่นอย่างเร่งด่วน
ต่อมา พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย สั่งการให้ พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ รอง ผบก.ภ.เชียงราย เดินทางไปตรวจสอบคดีด้วยตัวเอง ซึ่งจากการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดทราบว่า ก่อนหน้านี้ จ.ส.อ.บุญเกิด อาศัยอยู่ที่บ้านหลังแรกที่ถูกไฟไหม้ พร้อมภรรยาและบุตรทั้ง 2 คน
ส่วนพ่อตาและแม่ยาย อาศัยอยู่ที่บ้านหลังที่สอง แต่เนื่องจาก จ.ส.อ.บุญเกิด ต้องไปปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ อ.เชียงแสน จึงทำให้ไม่ค่อยได้อยู่บ้านแต่จะใช้การเดินทางไปกลับนานๆ ครั้ง และเมื่อกลับบ้านบางครั้งไม่พบภรรยาอยู่บ้านทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทในทำนองหึงหวงกันอยู่เป็นประจำ ทำให้นายสวน – นางแก้ว ซึ่งเป็นพ่อตาและแม่ยาย อยากให้ทั้งคู่ทำความเข้าใจกัน ในวันเกิดเหตุจึงให้ทั้งคู่พบปะพูดคุยกัน
แต่ปรากฏว่า จ.ส.อ.บุญเกิด ได้บันดาลโทสะใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ซึ่งเจ้าหน้าที่พบในที่เกิดเหตุยิงใส่พ่อตาและภรรยาจนเสียชีวิต รวมทั้งกระสุนยังเฉี่ยวไปโดนแม่ยายและลูกๆ ซึ่งอยู่ในห้องโถงของบ้านอีกด้วย
หลังเกิดเหตุ จ.ส.อ.บุญเกิด ได้วิ่งกลับบ้านตัวเองทำให้ชาวบ้านแจ้งกับตำรวจจากนั้นทั้งตำรวจและทหารต้นสังกัดได้ช่วยกันไปเกลี้ยกล่อม จ.ส.อ.บุญเกิด ซึ่งถือปืนอยู่ในบ้านโดยใช้เวลาในการเกลี้ยกล่อมนานหลายชั่วโมง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะ จ.ส.อ.บุญเกิด ได้จุดไฟเผาบ้านจากด้านในก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดเมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบก็พบว่าเจ้าตัวล้มลงจมกองเลือดดังกล่าวขณะที่ไฟก็โหมลุกไหม้จนบ้านวอดเกือบทั้งหลัง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำร่างของ จ.ส.อ.ส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
