เชียงราย – กองกำลังผาเมืองระดมทหารปิดบ้าน “ม้งเก้าหลัง” ค้นแหล่งพักยาชายแดนไทย – พม่า แต่ไร้เงาของกลาง – เจ้าของบ้าน เผยพบแต่มบสั่งยาบ้า นัดส่งมอบหลัง ธกส.เชียงราย ขณะที่ในหมู่บ้านเหลือแต่เด็ก-ผู้ใหญ่ ที่เหลือข้ามฝั่งเข้าพม่า อ้างไปรับจ้างไม่มีกำหนดกลับ พร้อมบินตรวจแนวพรมแดนเจอไร่ฝิ่นโผล่กลางเขตอิทธิพล “ยี่เซ” กองกำลังมูเซอพันธมิตร รบ.พม่า
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (7 ม.ค.) พ.อ.ศุภฤกษ์ สถาพรผล รอง ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ได้นำกำลังทหารจำนวนประมาณ 100 นายพร้อมอาวุธครบมือขึ้นไปปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นภายในพื้นที่หมู่บ้านม้งเก้าหลัง หมู่ 9 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อตรวจค้นการกระทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะเกี่ยวกับด้านยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมายจำนวน 9 จุด
ผลการตรวจค้นพบเพียงวัตถุที่คาดว่าจะใช้ในการเก็บยาบ้าแต่ไม่พบยาบ้า และพบเอกสารรายการใบสั่งซื้อหรือออเดอร์ยาบ้าที่เชื่อมเครือข่ายกัน ทั้งกลุ่มผู้ผลิตในเขตประเทศเพื่อนบ้านและผู้สั่งซื้อในฝั่งประเทศไทย
โดยเฉพาะรายหนึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่า ในใบสั่งซื้อเป็นการแจ้งรายละเอียดว่า มีผู้ซื้อยาบ้ารายหนึ่งจากเขต อ.เมือง จ.เชียงราย แจ้งไปยังหมู่บ้านพักยาบ้าชายแดน เพื่อขอให้ส่งยาบ้าไปให้โดยนัดส่งมอบกันบริเวณซอยยุติธรรม บริเวณสำนักงานที่ดิน จ.เชียงราย หรือด้านหลังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาเชียงราย ซึ่งถือเป็นการตรวจพบใบสั่งซื้อยาบ้าที่มีการระบุข้อความชัดเจน แต่เนื่องจากไม่พบของกลางยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้เครื่องตรวจสารเสพติดจีที 200 ทำการตรวจสอบวัตถุ ซึ่งเป็นแผ่นพลาสติกบาง โดยเครื่องให้ปฏิกิริยาว่ามีการปนเปื้อนของสารเสพติดประเภทยาบ้า
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ เนื่องจากการตรวจค้นภายในพื้นที่เป้าหมายในบ้านแต่ละหลัง ไม่พบผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน พบเพียงผู้หญิงและเด็กเป็นส่วนใหญ่ส่วนผู้ชายนั้นผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอ้างว่า ทั้งหมดต่างเดินทางไปทำงานรับจ้างทำไร่ในฝั่งประเทศพม่าทั้งหมด และไม่มีกำหนดเดินทางกลับด้วย
เจ้าหน้าที่จึงทำได้เพียงเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานเอาไว้ จากนั้นใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจตามแนวชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.เชียงราย ปรากฏว่าได้พบเห็นไร่ฝิ่นเป็นบริเวณกว้างถูกปลูกปนกับแนวเขาพื้นที่หมู่บ้านเอดิ ฝั่งประเทศพม่า ตรงกันข้ามหมู่บ้านป่าซางนางเงิน ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของ พ.ท.ยี่เซ หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธเผ่ามูเซอ ซึ่งเป็นทหารอาสาหรือพันธมิตรกับรัฐบาลทหารพม่า ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงเตรียมประสานไปยังคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่นหรือทีบีซี เพื่อแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่พม่าทำการทำการทำลายทิ้งต่อไป
พ.อ.ศุภฤกษ์ กล่าวว่า ปฏิบัติการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายดังกล่าวมีขึ้น เพราะหมู่บ้านม้งเก้าหลังถือเป็นพื้นที่ชายแดน มีช่องทางที่ล่อแหลมต่อการนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติดและอาวุธ การตรวจค้นจึงเสมือนเป็นการป้องปรามไปพร้อมๆ กัน
ทั้งนี้ในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ที่ประจำอยู่ตามแนวชายแดนด้าน จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ติดกันได้เข้มงวดกวดขันอย่างหนัก จึงทำให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดถูกกดดันและมีโอกาสสูงที่จะพยายามนำเข้ายาเสพติดเพราะต้องการนำเงินไปหาซื้ออาวุธไว้ต่อสู้กัน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าสำหรับพื้นที่หมู่บ้านม้งเก้าหลัง อยู่ตรงกันข้ามกับเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อยว้าแดง ในประเทศพม่า ซึ่งมีเมืองยอนเป็นศูนย์กลางของรัฐว้าตอนใต้ ที่ผ่านมามีการอพยพของชาวเขาเผ่าม้ง ที่เคยเคลื่อนไหวอยู่ตามชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เวียงแก่น อ.เทิง จ.เชียงราย ไปอยู่ยังพื้นที่ดังกล่าวในฝั่งประเทศพม่า เพราะมีเครือญาติหรือชาวเขาเผ่าม้งจำนวนหนึ่งอยู่ตามตะเข็บชายแดน ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่มีกระแสว่า ในปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดได้จัดเตรียมยาบ้า เพื่อเตรียมส่งมายังฝั่งไทยอย่างเร่งด่วนกว่า 5 ล้านเม็ด เพื่อจะนำเม็ดเงินที่ได้ไปจัดซื้ออาวุธไว้ต่อสู้และถ่วงดุลกำลังกันภายในเขตรัฐว้าตอนใต้นั่นเอง และถือเป็นพื้นที่ที่มีเอกชนไทย คือ บริษัทสระบุรีถ่านหิน จำกัด ในเครืออิตัลไทย ได้ขออนุญาตไปยังกรมศุลกากร เพื่อขอให้มีการเปิดเป็นจุดนำเข้าถ่านหินลิกไนซ์จากเมืองสาด ประเทศพม่า (ตรงกันข้ามกับหมู่บ้านม้งเก้าหลัง) มีการประเมินกันว่าเป็นเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 2.5 แสนล้านบาท เนื่องจากไปได้สัมปทานจากทางการพม่าเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี โดยปัจจุบันได้ก่อสร้างถนนเชื่อมจากเหมืองถ่านหินมายังชายแดนด้านหมู่บ้านม้งเก้าหลังแล้ว แต่อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในพื้นที่
ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงมีความกังวล ว่าหากต้องมีการเปิดช่องทางดังกล่าวเนื่องจากเป็นชายแดนที่ล่อแหลม ต่อการนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมายโดยเฉพาะยาเสพติด