พิจิตร – เตือนรถไฟสายเหนือทั้งขาขึ้น-ล่องวันนี้ (4 ม.ค.) ช้าทุกขบวน ขณะที่ประชาชนที่รอใช้บริการกลับเข้ากรุง หลังเที่ยวฉลองปีใหม่บ่นกันตรึม ด้านร้านค้าของฝากริมทางหลวงเมืองพิจิตรหน้าบานกันเป็นแถว หลังทำยอดขายช่วงปีใหม่ได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว
รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร แจ้งว่า ที่สถานีรถไฟจังหวัดพิจิตรวันนี้ (4 ม.ค.) บรรยากาศของผู้ที่เดินทางกลับมาเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ยังภูมิลำเนายังคงมีการทยอยเดินทางกลับเข้า กทม.อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานที่ต้องอาศัยโดยสารขบวนรถไฟฟรี ต่างมานั่งรอขบวนรถ 202 ต้นทาง พิษณุโลก ปลายทาง กทม. ตั้งแต่เช้าเพื่อหวังจะโดยสารขบวนรถเที่ยวดังกล่าว แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะขบวนรถไฟเสียเวลากว่า 2 ชั่วโมง จากต้นทาง
นอกจากนี้ พนักงานของการรถไฟก็ได้แจ้งให้กับผู้โดยสารเพิ่มเติมอีกว่า ตลอดวันนี้รถไฟจะเสียเวลาทุกขบวน ทั้งเที่ยวขึ้นและเที่ยวล่องเพื่อเข้ากรุงเทพฯ เนื่องจากหัวรถจักรหลายคันที่ต้องใช้งานหนักและเก่า ชำรุด-เสียระหว่างการเดินทาง ซึ่งล้วนแต่เป็นขบวนรถเร็ว สปริ้นเตอร์ ที่ผู้โดยสารต่างจองตั๋วการเดินไว้ล่วงหน้า ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเสียเวลา การเดินทางหลังฉลองปีใหม่อย่างน้อย 2 ชั่วโมงทุกขบวน
เหตุการณ์ดังกล่าวจึงทำให้ผู้โดยสารต่างบ่นกับการบริการของรถไฟไทยที่ไม่ตรงเวลากันเป็นแถว
ทางด้านกลุ่มแม่ค้าริมทางหลวงในเขตพิจิตร กลับยิ้มรับทรัพย์ช่วงปีใหม่ หลังมีรายได้เพิ่มสองถึงสามเท่าตัวจากการขายของฝาก นักเดินทางช่วงขาล่องเข้ากรุง โดยร้านขายของริมทางที่มีอยู่กว่า 50 ร้านซึ่งจำหน่ายทั้งผลไม้ ของฝากต่างยิ้มออกกันถ้วนหน้า จากการจำหน่ายสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่เดินทางกลับจากการเฉลิมฉลองยังคงบรรยากาศการเดินทางกลับสู่ภาคกลางและกรุงเทพฯ บนเส้นทางหลักทั้ง 2 สายของจังหวัดพิจิตรคือ ทางหลวงหมายเลข 117 พิษณุโลก-นครสวรรค์ หรือสายเอเชีย และทางหลวงสาย 11 วังทอง-เขาทราย-ตากฟ้า
โดยนายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ภายหลังจากออกตรวจเยี่ยมจุดบริการประชาชนและจุดที่ขายของฝากของจังหวัดพิจิตร บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 117 ถนนสาย พิษณุโลก-นครสวรรค์ หรือสายเอเชีย กล่าวว่า บรรยากาศของการค้าขายคึกคักชาวบ้านที่ขายของริมทางที่มีอยู่กว่า 50 ร้านซึ่งจำหน่ายทั้งผลไม้ สินค้าทางการเกษตรของฝาก เช่น ส้มโอ มันเทศ มันแกว ของฝาก ผลิตภัณฑ์โอทอปต่างมีรายได้เพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว จากเดิมที่เคยขายได้วันละ 500-1,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 2,000-3,000 บาท ขายดีเป็นพิเศษเนื่องจากประชาชนที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ จึงนับว่าเป็นโอกาสทองของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ที่มีรายได้เพิ่มในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวเช่นนี้