บุรีรัมย์ - ชาวนา อ.ประโคนชัย บุรีรัมย์ กว่า 700 คนบุกประท้วง“ธ.ก.ส.”ไม่พอใจได้รับเงินส่วนต่างโครงการประกันราคาข้าวเปลือกต่ำ อ้างธ.ก.ส.ลงวันที่ในสัญญาช้ากว่าความเป็นจริง ชี้ทำสัญญาตั้งแต่ 16 พ.ย. ที่ส่วนต่างสูงถึง 2,210 บาท/ตัน แต่กลับลงวันที่ในสัญญาเป็น 25 ธ.ค. ทำให้ได้รับส่วนต่างแค่ตันละ 405 บาท ขู่หากไม่ได้เพิ่มเตรียมบุกทำเนียบพบนายกฯมาร์ค
วันนี้ (28 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ตัวแทนชาวนาจาก 3 ตำบล มี ต.ละเวี้ย ,ต.ไพศาล และ ต.โคกมะขาม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กว่า 700 คน รวมตัวชุมนุมประท้วงหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาประโคนชัย เนื่องจากไม่พอใจที่จะได้รับเงินชดเชยส่วนต่าง ในโครงการประกันรายได้เกษตรกร ในส่วนของการประกันราคาข้าวเปลือกน้อยเพียงตันละ 405 บาท
ชาวบ้านที่มาชุมนุมอ้างว่า มีการลงพื้นที่ทำสัญญาโครงการประกันรายได้ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. ซึ่งขณะนั้นจะได้รับเงินส่วนต่างถึง 2,210 บาท/ตัน แต่กลับมีการลงวันที่ในหนังสือสัญญา เป็นช่วงวันที่ 16 - 30 ธ.ค. ซึ่งทำให้ชาวบ้านได้รับเงินส่วนต่างเพียง 405 บาท เนื่องจากราคาข้าวปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เงินส่วนต่างที่จะได้รับลดลง สร้างความไม่พอใจแก่เกษตรกร
ทั้งนี้เกษตรกรเชื่อว่า ธ.ก.ส. มีการประวิงเวลา เพื่อจ่ายเงินส่วนต่างน้อยลง รวมทั้งขู่ว่าหากไม่มีการเพิ่มเงินส่วนต่างให้ตันละ 1,580 บาทเท่ากับอำเภออื่นๆ จะรวมตัวบุกไปประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ทาง ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ ได้ส่งพนักงานบริหารสินเชื่อ เข้ารับเรื่องร้องเรียนจากผู้ชุมนุม พร้อมรับปากจะส่งเรื่องเสนอไปยังส่วนกลางพิจารณา เนื่องจาก ธ.ก.ส.จังหวัดไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ
นายพล ทิมหาดหงส์ แกนนำเกษตรกร ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่จริงใจช่วยเหลือชาวนา ทั้งที่โครงการประกันรายได้ทำมาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ โดยมีการลงไปทำสัญญา ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. แต่กลับลงวันที่ในหนังสือสัญญาเป็นวันที่ 25 ธ.ค. ทำให้เงินส่วนต่างลดลง จากตันละ 2,210 บาท เหลือเพียง 405 บาท ซึ่งหากไม่มีเปลี่ยนแปลงวันที่ในสัญญา โดยอย่างน้อยที่สุดต้องได้เงินส่วนต่าง ช่วงวันที่ 1-15 ธ.ค. คือตันละ 1,580 บาท หากไม่เช่นนั้น ชาวบ้านก็จะบุกร้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ด้าน นายเสกสรร ศานติวรวงศ์ พนักงานบริหารสินเชื่อ ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ ได้กล่าวภายหลังเป็นตัวแทนรับเรื่องร้องว่า ชาวนาที่มาชุมนุมเรียกร้องในครั้งนี้ เพราะจะได้รับเงินส่วนต่างประกันราคาข้าวตันละ 405 บาท แต่ชาวนาต้องการได้รับเงินส่วนต่าง 1,580 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ทำสัญญากับ ธ.ก.ส.ในช่วงวันที่ 1-15 ธ.ค. แต่ชาวบ้านที่มาเรียกร้องได้ทำลงวันที่ในสัญญาหลังจากนั้น
ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีเงื่อนไขว่าสามารถเปลี่ยนแปลงวันทำสัญญาได้ แต่ต้องเป็นช่วงวันหลังจากวันที่ทำสัญญา แต่ชาวบ้านต้องการแก้ไขเป็นช่วงก่อนทำสัญญา ซึ่งทาง ธ.ก.ส.จังหวัดไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ กรณีดังกล่าวจะได้ส่งเรื่องเสนอไปยังส่วนกลางเพื่อพิจารณา พร้อมรับปากจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เกษตรกรที่มาชุมนุมจึงพอใจและยอมสลายตัวกลับในเวลาต่อมา
