“ป๋าเปรม ”เปิดบ้านโคราชอวยพรปีใหม่ วอนนำพระราชดำรัส “ในหลวง” ทำบ้านเมืองปกติสุข

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ป๋าเปรม” เปิดบ้านพักโคราชอวยพรปีใหม่ 2553 “มทภ.2” นำบิ๊ก ขรก.-ทหาร-ตำรวจ -นักธุรกิจเข้ามอบกระเช้าดอกไม้รับพรพร้อมหน้า ด้าน “ป๋า” ขอให้ทุกคนและแม่ทัพภาค 2 น้อมนำพระราชดำรัสในหลวง 5 ธ.ค.ใส่เกล้าใส่กระหม่อม นำไปปฏิบัติให้บ้านเมืองเป็นปกติสุข ชี้ในหลวงทรงหายประชวรเป็นข่าวดีที่สุดรับปีใหม่ แต่ประทับที่ รพ.ต่อเพื่อฟื้นฟูพระวรกายให้แข็งแรงจะได้เสด็จเยี่ยมเยียนราษฎรได้เช่นเดิม พร้อมขอให้ทุกคนมีความเข้มแข็งอดทนฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองโดยเฉพาะภาคอีสาน



วันนี้ (26 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่บ้านแม่ทัพ เลขที่ 1885 ถ.สืบศิริ หน้ากองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านพักให้ข้าราชการและนักธุรกิจเข้าอวยพรเนื่องในโอกาสปีใหม่ 2553 โดย พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พร้อม พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) และ นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำเหล่าข้าราชการ ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และนักธุรกิจใน จ.นครราชสีมา รวมทั้ง สรพงษ์ ชาตรี ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เข้ามอบกระเช้าดอกไม้และมอบเงินสมทบกองทุนมูลนิธิพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนยากจนในภาคอีสานพร้อมรับพรปีใหม่ 2553 อย่างพร้อมเพรียงกัน

พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้กล่าวให้โอวาทและอวยพรปีใหม่ ว่า ขอให้ทุกคนน้อมนำ พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงตรัสในวันที่ 5 ธ.ค. 2552 ซึ่งพระองค์ทรงรับสั่งจากน้ำพระทัยอันบริสุทธิ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และไม่บ่อยนักที่จะได้ยินพระราชดำรัสแบบนี้ออกมาจากน้ำพระทัยจริงๆ ฉะนั้น พวกเราต้องรับใส่เกล้าใส่กระหม่อม และไปช่วยกันทำให้ภาคอีสานมีความสงบสุข เป็นปกติสุข เพื่อท่านได้จะสบายพระราชหฤทัยตามที่ท่านรับสั่งว่า “ความสุขของข้าพเจ้า คือความเป็นปกติสุขของชาติบ้านเมืองของเรา” และพระองค์ท่านทรงอธิบายต่อไปว่า การทำให้ชาติบ้านเมืองทรงเป็นปกติสุขและเราควรจะทำอย่างไร แม่ทัพภาคที่ 2 ก็จำเป็นจะต้องรับไปทำ

พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า เมื่อ 2-3 ที่ผ่านมา สำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์มาฉบับหนึ่ง ซึ่งความจริงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวรแล้ว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บแล้ว แต่ท่านต้องประทับอยู่ที่โรงพยาบาล ต่อไปตามคำแนะนำของหมอ เพื่อที่จะทำให้มีความแข็งแรงยิ่งขึ้น ซึ่งที่โรงพยาบาล มีเครื่องมือที่ทำกายภาพบำบัดพร้อมสมบูรณ์ มีแพทย์ดูแล ฉะนั้นการประทับอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น โปรดอย่าเข้าใจว่าท่านยังป่วย ซึ่งความจริงท่านหายป่วยแล้ว แต่ท่านยังต้องออกพระกำลังให้ร่างกายแข็งแรง อันนี้ถือเป็นข่าวดีมาก ๆ ที่พวกเราจะได้ดีใจกันว่า ท่านหายประชวร แล้ว

ต่อไปนี้ก็เป็นหน้าที่ของพวกเรา เป็นหน้าที่ของแม่ทัพฯ เป็นหน้าที่ของทุกท่านที่จะช่วยกันทำถวายให้ท่านมีความสุข เหมือนอย่างเรายกมือไหว้กันทุกวันๆ “ขอให้ทรงพระเจริญ” ก็โปรดไปทำให้ท่านทรงพระเจริญจริงๆ ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระเจริญ พวกเราก็คงเจริญตามไปด้วย เพราะว่าเผื่อท่านทรงแข็งแรง อาจจะเสด็จออกมาเยี่ยมราษฎรได้เหมือนอย่างเดิม ราษฎรก็จะได้ดีใจ ได้เฝ้าฯ ได้ใกล้ชิด ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง ขอเท่านี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ช่วยหน่อย จริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กเป็นเรื่องที่ลำบาก ยากพอสมควร แต่คิดว่าคนภาคอีสานน่าจะทำได้สำเร็จ

พล.อ.เปรม กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามวันนี้ขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 2 และทุกคนที่มาอวยพรปีใหม่ 2553 ขอให้พระสยามเทวาธิราช ซึ่งคุ้มครองประเทศของเรามาโดยตลอดและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยทุกเชื้อชาติ ศาสนาเคารพนับถือได้โปรดดลบันดาลให้แม่ทัพภาคที่ 2 และชาวภาคอีสานทุกท่านมีกำลังกายกำลังใจ แข็งแรงสมบูรณ์ มีความเข้มแข็งอดทนที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมืองของเราโดยเฉพาะภาคอีสานซึ่งแม่ทัพฯ รับผิดชอบอยู่ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ มีความปลอดภัย และเป็นการส่วนตัวก็ขอให้มีครอบครัวที่มีความสุข ขอให้ทุกคนมีอายุมั่นขวัญยืน อยู่ดูแลชาติบ้านเมืองให้สมกับที่เราได้ถวายคำสัตย์ปฏิญาณไว้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ภายหลังพิธีอวยพรปีใหม่แล้ว พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ ก่อนเดินทางกลับไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ กรุงเทพฯ ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ (26 ธ.ค.)