นครพนม-ทหารพราน หน่วย2104อ.ท่าอุเทนจังหวัดนครพนมงดเที่ยวปีใหม่วางกำลังตั้งรับขบวนการค้ายาเสพติดไทยลาวฉวยจังหวะเจ้าหน้าที่รับมืออุบัติช่วงปีใหม่ขนยาบ้าข้ามโขงโดยเน้นพื้นที่ตามแนวลำน้ำโขงชี้กลยุทธใหม่พ่อค้ายาบ้าลาวขนยาบ้าขึ้นฝั่งไทยใช้ระบบโยนยาบ้าขึ้นฝั่งโดยไม่เทียบฝั่งเผยสถิติทั้งปีมีการจับกุมคนแก่ขนยาบ้ามากขึ้น
ร.อ.อดิศัย ไขประพาย หัวหน้าชุดหน่วยทหาร 2104 ชุดปฏิบัติการปรามปรามยาเสพติดตามแนวลำน้ำโขงในเขตอำเภอท่าอุเทนจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกนายงดลาเที่ยวหรือดื่มฉลองวันปีใหม่ไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น โดยกำลังทั้งหมดจะลาดตระเวณตรึงกำลังตามแนวลำน้ำโขงในพื้นที่จุดเสี่ยงทั้งกลางวันกลางคืนอย่างเข้มข้นเพื่อสกัดกั้นจับกุมการลักลอบนำยาเสพติดทั้งกัญชายาบ้าเข้ามาฝั่งไทยจากประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งขบวนการค้ายาเสพติดไทยลาวจะฉวยจังหวะช่วงเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานทุ่มกำลังในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยจะเน้นตลิ่งโขงเป็นหลักซึ่งจากข้อมูลพบว่าช่วงเจ้าหน้าที่ตั้งด่านงานเทศกาลต่างๆขบวนการค้ายาบ้าจะลำเลียงยาบ้ามาไว้ที่หมู่บ้านริมโขงจะไม่ลำเลียงออกนอกพื้นที่จังหวัดตอนในช่วงตั้งด่านมาก
แต่หลังปีใหม่เมื่องดการตั้งด่านจึงจะลำเลียงยาบ้าที่ซุกซ่อนไว้ไปจังหวัดปลายทางดังดังนั้นยุทธวิธีสกัดยาบ้าจึงอยู่ที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง
ร.อ.อดิศัย ไขประพาย กล่าวอีกว่าสำหรับผลการจับกุมในรอบปีตั้งแต่เดือนตุลาคม 51-กันยายน 52 จับผู้ต้องหา 54 คน ยาบ้า 64,623 เม็ด กัญชา 1,074 ก.ก. และผลการจับกุมระหว่างเดือนตุลาคมถึงปัจจุบัน ได้ผู้ต้องหา 6 คน ยาบ้า 54,590 เม็ด กัญชา174 กิโลกรัม และประเด็นที่น่าสนใจปีนี้มีการจับกุมคนแก่ผู้หญิงอายุ 60-70 ปี เข้ามาร่วมค้ายาบ้าถึง 8 คน ขณะที่รูปแบบการลำเลียงยาบ้าเปลี่ยนไป
โดยขบวนการค้ายาบ้าฝ่ายลาวจะว่าจ้างให้เรือหาปลาชาวนำยาบ้ามาส่งฝั่งไทยโดยการนำเรือเข้ามาใกล้ฝั่งห่าง 5 เม็ดไม่ดับเครื่องแล้วโยนยาบ้าขึ้นฝั่ง แล้วนายทุนฝั่งไทยจะว่าจ้างให้ชาวบ้านริมโขงผู้ร่วมขบวนการเก็บห่อยาบ้ามาส่งที่สถานนัดแนะและรับเงินค่าขน 1 หมื่นเม็ดได้ค่าจ้าง 1,5000 บาท ก่อนที่ยาบ้าจะถูกส่งมอบลำเลียงไปจังหวัดปลายทางอย่างเร็วที่สุด
ร.อ.อดิศัย ไขประพาย หัวหน้าชุดหน่วยทหาร 2104 ชุดปฏิบัติการปรามปรามยาเสพติดตามแนวลำน้ำโขงในเขตอำเภอท่าอุเทนจังหวัดนครพนมเปิดเผยว่าในช่วงเทศกาลวันปีใหม่ที่จะถึงนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกนายงดลาเที่ยวหรือดื่มฉลองวันปีใหม่ไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น โดยกำลังทั้งหมดจะลาดตระเวณตรึงกำลังตามแนวลำน้ำโขงในพื้นที่จุดเสี่ยงทั้งกลางวันกลางคืนอย่างเข้มข้นเพื่อสกัดกั้นจับกุมการลักลอบนำยาเสพติดทั้งกัญชายาบ้าเข้ามาฝั่งไทยจากประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งขบวนการค้ายาเสพติดไทยลาวจะฉวยจังหวะช่วงเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานทุ่มกำลังในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยจะเน้นตลิ่งโขงเป็นหลักซึ่งจากข้อมูลพบว่าช่วงเจ้าหน้าที่ตั้งด่านงานเทศกาลต่างๆขบวนการค้ายาบ้าจะลำเลียงยาบ้ามาไว้ที่หมู่บ้านริมโขงจะไม่ลำเลียงออกนอกพื้นที่จังหวัดตอนในช่วงตั้งด่านมาก
แต่หลังปีใหม่เมื่องดการตั้งด่านจึงจะลำเลียงยาบ้าที่ซุกซ่อนไว้ไปจังหวัดปลายทางดังดังนั้นยุทธวิธีสกัดยาบ้าจึงอยู่ที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขง
ร.อ.อดิศัย ไขประพาย กล่าวอีกว่าสำหรับผลการจับกุมในรอบปีตั้งแต่เดือนตุลาคม 51-กันยายน 52 จับผู้ต้องหา 54 คน ยาบ้า 64,623 เม็ด กัญชา 1,074 ก.ก. และผลการจับกุมระหว่างเดือนตุลาคมถึงปัจจุบัน ได้ผู้ต้องหา 6 คน ยาบ้า 54,590 เม็ด กัญชา174 กิโลกรัม และประเด็นที่น่าสนใจปีนี้มีการจับกุมคนแก่ผู้หญิงอายุ 60-70 ปี เข้ามาร่วมค้ายาบ้าถึง 8 คน ขณะที่รูปแบบการลำเลียงยาบ้าเปลี่ยนไป
โดยขบวนการค้ายาบ้าฝ่ายลาวจะว่าจ้างให้เรือหาปลาชาวนำยาบ้ามาส่งฝั่งไทยโดยการนำเรือเข้ามาใกล้ฝั่งห่าง 5 เม็ดไม่ดับเครื่องแล้วโยนยาบ้าขึ้นฝั่ง แล้วนายทุนฝั่งไทยจะว่าจ้างให้ชาวบ้านริมโขงผู้ร่วมขบวนการเก็บห่อยาบ้ามาส่งที่สถานนัดแนะและรับเงินค่าขน 1 หมื่นเม็ดได้ค่าจ้าง 1,5000 บาท ก่อนที่ยาบ้าจะถูกส่งมอบลำเลียงไปจังหวัดปลายทางอย่างเร็วที่สุด
