xs
xsm
sm
md
lg

รัฐ-เอกชนตากเรียงแถวโชว์ผลงานดันค้าแม่สอด-เมียวดีโตสุด 27%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตาก- พ่อเมืองตาก ระดมตัวแทนภาครัฐ-เอกชน เรียงแถวแถลงผลการปฏิบัติงาน ชูด่านแม่สอด-เมียวดี เป็นด่านการค้าที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดตลอดแนวชายแดนไทย-พม่า ล่าสุดยอดการค้าทะลุ 2.3-2.5 หมื่นล้าน โตขึ้น 27% ด้านหอการค้าตากเล็งประสานทุกหน่วย ดันโปรเจคใหญ่เชื่อมไทย-พม่าให้ลุล่วงเร็วที่สุด

วันนี้ (24 ธ.ค.) นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก –นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด-นายรุ่งเรือง รังษิโย หัวหน้าสำนักงานจัดหางานจังหวัดตาก- พ.อ.ประสาน แสงศิริรักษ์ เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด- พ.ต.ท.กันต์พงค์ วงค์วิชัย สารวัตรสืบสวนและปราบปรามด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก(แม่สอด) –นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก ได้ร่วมแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ประจำเดือนธันวาคม 2552 ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี ที่ห้องประชุมโรงแรมภูอินน์ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีสื่อมวลชน-ภาครัฐและเอกชน และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกว่า 50 คน

ประเด็นในการแถลง ครอบคลุมผลการปฏิบัติงานในเรื่องของชายแดนไทย-พม่า ทั้งเศรษฐกิจ-การค้า-การลงทุน-การท่องเที่ยว-ปัญหาการป้องกันและปราบปรามการค้ายาเสพติด-สิ่งผิดกฎหมาย-อาชญากรรมข้ามชาติ-การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการใช้แรงงานต่างด้าว(กะเหรี่ยง-พม่า)

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวว่า ชายแดนไทย-พม่า แม่สอด-เมียวดี มีจุดเด่น ด้านการค้าชายแดน ปัจจุบันมีมูลค่าการค้าราว 23,000-25,000 ล้านบาท สูงที่สุดในทุกด่านการค้าไทย-พม่า ทำให้นักธุรกิจ ต่างหันมาส่งออก-นำเข้าสินค้าที่ด่านแม่สอด เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งยังเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวและการลงทุนทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ชายแดนก็มักปัญหาหลากหลาย เช่นการลักลอบค้ายาเสพติด-ขนคนต่างด้าว-การโจรกรรมรถ-อาชญากรรมข้ามแดน ฯลฯ ซึ่งตนเองได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ได้เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่

นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดนแม่สอด-เมียวดี ในปี 2552 โตขึ้น 27 % จากปี 2551 ที่ผ่านมา ปัจจุบันตัวเลขส่งออกมีมากกว่า 24,000 ล้านบาท ส่วนนำเข้าลดลง เนื่องจากสินค้าเกษตรบางรายการ มีการนำไปส่งออกทางจีน เช่น ข้าวสารและหอมหัวใหญ่ สาเหตุน่าจะมาจาก สินค้าดังกล่าวจีนกำลังต้องการประกอบกับ ปัญหาด้านการชำระภาษีที่สูง และพ่อค้ากำลังรอในเรื่องการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ซึ่งภาษี 0% ที่จะเปิดในเดือนมกราคม 2553 เป็นต้นไป

“สินค้า 10 อันดับแรก ในการส่งออกของไทย เช่นน้ำมันพืช-น้ำมันเชื้อเพลิง-รถยนต์มือ 2-ผงชูรส-กาแฟ ครีมเทียม-ยารักษาโรค –เครื่องใช้ไฟฟ้าและอีเลคทรอนิก เป็นต้น ส่วนรถกำลังเป็นสินค้าที่เริ่มจะมีการส่งออกมากและแซงขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ เพราะชาวพม่ากำลังสั่งซื้อจำนวนมาก ส่วนสินค้านำเข้า คืออาหารทะเล-เฟอร์นิเจอร์ไม้-ปลาเบญจพรรณและสินค้าเกษตร ฯลฯ” นายด่านศุลกากรแม่สอด กล่าว

ด้าน พ.อ.ประสาน แสงศิริรักษ์ เสนาธิการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด กล่าวว่า ปัญหาการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังชนกลุ่มน้อย มีแนวโน้มลดลง ซึ่งปีก่อนมีการปะทะมากกว่า 20 ครั้ง แต่ในช่วงนี้มีไม่กี่ครั้ง ซึ่งการสู้รบส่วนใหญ่เกิดจากผลประโยชน์ในการครอบครองเขตอิทธิพลของตัวเอง เพื่อการจัดเก็บภาษีในเขตอิทธิพลตัวเองรวมทั้งการยึดพื้นที่ ส่วนเรื่องต้องการดินแดนหรือการปกครองตนเองของชนกลุ่มน้อยลดลง เป็นเพียงเพื่อยึดพื้นที่จัดเก็บรายได้ผลประโยชน์

นายรุ่งเรือง รังษิโย หัวหน้าสำนักงานจัดหางานจังหวัดตาก ได้กล่าวถึงข้อกฎหมายในด้านการใช้แรงงานต่างด้าว กะเหรี่ยง-พม่า ที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ คือการให้แรงงานต่างด้าวไปลงทะเบียนพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งจะเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 จึงขอให้นักธุรกิจ-ผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าวได้ ไปขอพิสูจน์สัญชาติ เพราะหลังพ้นกำหนด หากไม่ได้ขึ้นทะเบียนพิสูจน์สัญชาติ จะต้องมีความผิดตามกฎหมาย

ขณะที่นายบรรพต ก่อเกรียติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า ภาคเอกชนจะต้องพัฒนาด้านเศรษฐกิจ โดยประสานรัฐบาลและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ในการเดินหน้าแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2552 หรือเมกกะโปรเจคต่าง ๆ ทั้งโครงการการก่อสร้างสะพ่านมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ,โครงการเปิดเส้นทางการท่องเที่ยว แม่สอด-เมียวดี-มะละแหม่ง,โครงการก่อสร้างถนน แม่สอด-กอกาเรก เพื่อการค้าและการท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยจะเร่งติดตามงานทุกระยะ และเข้าไปมีบทบาทใน กรอ.จว.เพื่อพัฒนาและกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน

กำลังโหลดความคิดเห็น