ภาคธุรกิจ-ประชาชนยื่น“อภิรักษ์”เร่งเดินเครื่องอปท.พิเศษ”นครแม่สอด”

ตาก-ภาคธุรกิจ-ประชาชนชายแดนไทย-พม่า แห่หนุนแผนตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” โดยเร็ว พร้อมรวมตัวยื่นหนังสือผ่าน “อภิรักษ์” ระหว่างลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด ร่วมประชุมจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษ


สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี(นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการการพัฒนารูปแบบการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ในลักษณะเครือข่ายหรือกลุ่มพื้นที่และรูปแบบ การจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการในพื้นที่พิเศษ ได้เป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด”

ทั้งนี้ มีคณะอนุกรรมการฯ ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดตาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายอำเภอแม่สอด ผู้บริหาร อปท. นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด ผู้แทนภาครัฐและเอกชน ที่เกี่ยวข้อง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน และแกนนำชุมชน กว่า 150 คน เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมบอลลูม โรงแรมเซ็นทารา แม่สอดฮิลล์ อ.แม่สอด จ.ตาก

ในระหว่างที่คณะของที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าที่ประชุมได้มีประธานชุมชน กลุ่มพลังมวลชน นักเรียน ชาวบ้าน ในพื้นที่กว่า 2,000 คน มาให้การต้อนรับและแสดงความต้องการที่จะให้ผลักดันยกฐานะเป็น อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” โดยชูป้ายข้อความต่างๆ และยื่นหนังสือให้คณะอนุกรรมการฯ ได้เร่งดำเนินการและเสนอกฎหมายเข้าสู่กระบวนการยกฐานะเพื่อเสนอ คณะรัฐมนตรีให้พิจารณาอนุมัติและมีมติให้แม่สอดเป็นท้องถิ่นรูปแบบพิเศษต่อไปโดยเร็ววัน

นายอภิรักษ์ กล่าวในที่ประชุมว่า ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียนและเมืองแม่สอด คือศูนย์กลางภูมิภาคและประตูการค้าชายแดน บนระเบียงเศรษฐกิจอีสต์เวตส์ อีโคโนมิก คอร์ริดอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี สั่งการให้คณะอนุกรรมการฯชุดนี้ เข้ามาศึกษารูปแบบและหาข้อมูลเพื่อการจัดตั้งท้องถิ่นที่มีศักยภาพด้านต่างๆ เช่น เมืองการค้าชายแดนที่แม่สอด เมืองท่องเที่ยวที่เกาะสมุย เมืองท่าเรือและอุตสาหกรรมที่แหลมฉบัง มาบตาพุด ฯลฯ เพื่อพัฒนาและจัดตั้งในเมืองที่มีความพร้อมและเหมาะสมต่อไป

นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองแม่สอด กล่าวว่า แม่สอดเป็นเมืองชายแดนที่มีลักษณะพิเศษ เช่นประตูการค้าชายแดน เมืองท่องที่ยว เมืองอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานต่างด้าว เมืองธุรกิจและศูนย์กลางเส้นทางอีสต์เวตส์อีโคโนมิคคอริดอร์ ประตูการค้าชายแดน และล่าสุด ครม.มีมติให้พัฒนาแม่สอดเป็นพื้นที่พิเศษพัฒนาโครงการใหญ่ เช่น อนุมัติการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 ก่อสร้างคลังสินค้าและศูนย์บริการเบ็ดเสร็จวันสต็อปเซอร์วิส

รศ.วุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ในฐานะประธานคณะทำงานการจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” กล่าวว่า เป็นโอกาสดีของชาวแม่สอด ที่จะได้มีการพัฒนาไปสู่การเป็นท้องถิ่นพิเศษ เนื่องจากจะเป็นพื้นที่ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการในท้องถิ่นอย่างเต็มที่ ทั้งด้านงบประมาณ-อำนาจหน้าที่และการบริหารจัดการ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลางในการทำงาน

นายธนิตพล ไชยนันทน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก ได้เสนอต่อที่ประชุมว่าการจัดตั้ง ท้องถิ่นพิเศษ “นครแม่สอด” จะต้องให้เกิดความร่วมมือ 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายการเมือง-ฝ่ายราชการ-ฝ่ายประชาชน และด้วยการที่เป็นเมืองชายแดนที่มีลักษณะพิเศษ ทำให้ต้องมีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน(พม่า) ด้วย

นายสุชาติ ตรีรัตน์วัฒนา ประธานที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า เชื่อว่าการให้เมืองชายแดนแม่สอดเป็นท้องถิ่นพิเศษ จะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจชายแดน และประชาชนได้รับประโยชน์มากกว่าฝ่ายการเมือง ดังนั้น ตนเองจึงสนับสนุนแนวคิดนี้และเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับกระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งแรงงานต่างด้าว-และเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน

นายนิยม ไวยรัชพานิช ประธานคณะกรรมการการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านหอการค้าไทย และรองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่าแนวคิดเดิมคือการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ในพื้นที่ อ.แม่สอด-แม่ระมาด-พบพระ โดยมีแม่สอดเป็นศูนย์กลาง แต่เมื่อไม่สามารถตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษได้ ก็ควรหันมามองที่การจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก แต่ผู้บริหารท้องถิ่นจะต้องตั้งทีมเศรษฐกิจขึ้นมาเพื่อช่วยดูแลในด้านเศรษฐกิจและการค้าชายแดนด้วย

ขณะที่ นายอุดร ตันติสุนทร ประธานมูลนิธิส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเสนอในที่ประชุมให้สมาชิกสภาท้องถิ่น มาจาก 2 ส่วน คือมาจากการเลือกตั้งและสรรหามาจากนักธุรกิจนักวิชาการที่ชำนาญการหรือผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจาก เมื่อกำหนดให้แม่สอดเมืองชายแดนเป็นท้องถิ่นพิเศษก็ควรจะมองไปที่ด้านเศรษฐกิจด้วย

สำหรับโครงสร้างการจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” ที่ประชุมเสนอให้มีผู้บริหารท้องถิ่น นายกนครแม่สอด มาจากการเลือกตั้ง โดยมีสมาชิกนครแม่สอด 7 เขตเลือกตั้งเขตละ6 คน รวม 42 คนโดยผู้บริหารสามารถแต่งตั้ง ผู้ช่วยผู้บริหาร ทั้งรองนายก เลขานุการนายก ที่ปรึกษา และมีคณะกรรมการบริหารคอยกำกับดูแลการทำงานของผู้บริหาร