ตราด - ส.ว.ตราด ประสานเสียง ปธ.หอการค้าตราด จี้รัฐบาลไทยเร่งสร้างความสัมพันธ์กับกัมพูชาครั้งใหม่ หวั่นกระทบยาว กระเทือนเศรษฐกิจชายแดน ปธ.หอการค้าตราด ชี้ความสัมพันธ์แค่้มึนใส่กัน แต่ยังไม่รุนแรง เหตุฮุนเซนไม่พอใจรัฐบาลไทยเป็นรายบุคคล
นายสุพจน์ เลียดประถม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดตราด และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดตราด กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชาที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการค้าตามแนวชายแดนเป็นอันมาก โดยเฉพาะในเรื่องความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการค้าของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลต้องคำนึงถึงปัญหาในเรื่องนี้ให้มาก ทั้งนี้ การที่ทางรัฐบาลได้ดำเนินการตอบโต้ตามที่ปรากฎเป็นข่าวขึ้นทั้งที่การเรียกฑูตกลับประเทศไทย
การยกเลิกความช่วยเหลือทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตเป็นอันมาก จึงควรที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ปัญหาและสานความสัมพันธ์ระหว่างกันให้กลับมาโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัญหากรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกจับกุมและทางสมเด็จนโรดมสีหมุนี ได้ดำเนินการอภัยโทษให้แล้วนับเป็นสิ่งที่ดีและน่าจะเป็นช่องทางที่จะทำให้ความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศดีขึ้น แต่รัฐบาลไทยจะต้องดำเนินการทางการทูตเพื่อฉวยจังหวะและโอกาสในครั้งนี้ ดำเนินการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
“ผมเป็นประธานหอการค้าตราดมา 4 ปี และได้เข้าไปร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างหอการค้า จ.ตราดของไทยและหอการค้าจังหวัดของกัมพูชา รวมทั้งหอการค้าไทยกับหอการค้ากัมพูชาเพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน จนเป็นที่ประจักษ์และรับรู้ของรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งเมื่อนักธุรกิจไทยเดินทางเข้าไปลงทุนในกัมพูชาจะได้รับการอำนวยความสะดวกมาก แต่วันนี้เมื่อทั้ง 2 รัฐบาลเกิดความขัดแย้งกัน ความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็อาจจะต้องหมดไปและเริ่มต้นกันใหม่ นี่คือปัญหาที่จะเกิดขึ้น และผู้ประกอบการค้าตามแนวชายแดนได้รับผลกระทบโดยตรง"
นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เปิดเผยถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ต่อกรณีการพระราชทานอภัยโทษให้แก่นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ว่า แม้จะมีการปล่อยตัวนายศิวรักษ์แล้วก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชายังไม่ดีสักเท่าไร
โดยเฉพาะทางกัมพูชาที่ไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อรัฐบาลไทยเป็นรายบุคคล เช่น นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายกษิต ภิรมย์ รมต.ต่างประเทศ และระบุว่าหากจะให้ทำงานร่วมกับ 2 คนนี้ไม่ยินดีด้วย แต่ถ้าเป็นคนอื่น ๆ ในคณะรัฐบาลชุดนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
“ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากนัก เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน การที่มีข่าวออกมาทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจจากทางฝ่ายไทยทำให้ทางกัมพูชาเขาไม่พอใจในบ้างเรื่อง ทำให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกัน แต่ไม่ได้อยู่ในขั้นที่รุนแรงเท่าไร ก็จะเป็นลักษณะมึนใส่กันเท่านั้นเอง”
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า จุดยืนของหอการค้า จ.ตราด ก็คือเหมือนเดิม คือคัดค้านไม่ให้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มาตั้งในพื้นที่ จ.ตราด เพราะจะส่งผลกระทบต่อชาวตราดเป็นอันมาก เราต้องการหวงตรงนี้ไว้ให้กับชาวตราดเท่านั้น
นายสุพจน์ เลียดประถม สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จังหวัดตราด และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดตราด กล่าวว่า ความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชาที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการค้าตามแนวชายแดนเป็นอันมาก โดยเฉพาะในเรื่องความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการค้าของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งรัฐบาลต้องคำนึงถึงปัญหาในเรื่องนี้ให้มาก ทั้งนี้ การที่ทางรัฐบาลได้ดำเนินการตอบโต้ตามที่ปรากฎเป็นข่าวขึ้นทั้งที่การเรียกฑูตกลับประเทศไทย
การยกเลิกความช่วยเหลือทางด้านการพัฒนาเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตเป็นอันมาก จึงควรที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ปัญหาและสานความสัมพันธ์ระหว่างกันให้กลับมาโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัญหากรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกจับกุมและทางสมเด็จนโรดมสีหมุนี ได้ดำเนินการอภัยโทษให้แล้วนับเป็นสิ่งที่ดีและน่าจะเป็นช่องทางที่จะทำให้ความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศดีขึ้น แต่รัฐบาลไทยจะต้องดำเนินการทางการทูตเพื่อฉวยจังหวะและโอกาสในครั้งนี้ ดำเนินการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
“ผมเป็นประธานหอการค้าตราดมา 4 ปี และได้เข้าไปร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างหอการค้า จ.ตราดของไทยและหอการค้าจังหวัดของกัมพูชา รวมทั้งหอการค้าไทยกับหอการค้ากัมพูชาเพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน จนเป็นที่ประจักษ์และรับรู้ของรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งเมื่อนักธุรกิจไทยเดินทางเข้าไปลงทุนในกัมพูชาจะได้รับการอำนวยความสะดวกมาก แต่วันนี้เมื่อทั้ง 2 รัฐบาลเกิดความขัดแย้งกัน ความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็อาจจะต้องหมดไปและเริ่มต้นกันใหม่ นี่คือปัญหาที่จะเกิดขึ้น และผู้ประกอบการค้าตามแนวชายแดนได้รับผลกระทบโดยตรง"
นายประเสริฐ ศิริ ประธานหอการค้าจังหวัดตราด เปิดเผยถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ต่อกรณีการพระราชทานอภัยโทษให้แก่นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ว่า แม้จะมีการปล่อยตัวนายศิวรักษ์แล้วก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชายังไม่ดีสักเท่าไร
โดยเฉพาะทางกัมพูชาที่ไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อรัฐบาลไทยเป็นรายบุคคล เช่น นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กับนายกษิต ภิรมย์ รมต.ต่างประเทศ และระบุว่าหากจะให้ทำงานร่วมกับ 2 คนนี้ไม่ยินดีด้วย แต่ถ้าเป็นคนอื่น ๆ ในคณะรัฐบาลชุดนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
“ผมไม่อยากจะพูดอะไรมากนัก เพราะมันเป็นความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน การที่มีข่าวออกมาทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจจากทางฝ่ายไทยทำให้ทางกัมพูชาเขาไม่พอใจในบ้างเรื่อง ทำให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกัน แต่ไม่ได้อยู่ในขั้นที่รุนแรงเท่าไร ก็จะเป็นลักษณะมึนใส่กันเท่านั้นเอง”
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า จุดยืนของหอการค้า จ.ตราด ก็คือเหมือนเดิม คือคัดค้านไม่ให้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ มาตั้งในพื้นที่ จ.ตราด เพราะจะส่งผลกระทบต่อชาวตราดเป็นอันมาก เราต้องการหวงตรงนี้ไว้ให้กับชาวตราดเท่านั้น
