xs
xsm
sm
md
lg

ชัยภูมิระดมกวาดล้างแก๊งเงินกู้เถื่อนรวบ 36 รายพร้อมของกลางเงินสด -จยย.-ปิกอัพอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตร.ชัยภูมิร่วมจังหวัดฯ ระดมกวาดล้างแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบได้ 36 ราย พร้อมของกลางจำนวนมากทั้ง เงินสด 1.4 แสน จยย. 19 คัน ปิกอัพ 19 คัน วันนี้ ( 9 ธ.ค.)
ชัยภูมิ- ตร.ชัยภูมิร่วมจังหวัดฯ ระดมกวาดล้างแก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบได้ 36 รายพร้อมของกลางจำนวนมากทั้ง เงินสด 1.4 แสน จยย. 19 คัน ปิกอัพ 19 คัน เผยผู้ว่าฯ - ผู้การบูรณาการทำงาน พร้อมตั้งศูนย์รับร้องทุกข์กว่า 40 แห่ง และตั้งจุดสกัดทั่วทั้งจังหวัด รวบรวมหลักฐานหาต้นตอนายทุนใหญ่เพื่อถอนรากถอนโคน และส่งเสริมอาชีพปชช.ลูกหนี้ หนุนใช้ชีวิตแบบพอเพียงเพื่อตัดวงจรหนี้นอกระบบแบบยั่งยืน

วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่ห้องปะชุมเข็มทิศ ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สาธิต ตชยภพ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดตั้งศูนย์ร้องทุกข์การติดตามทวงหนี้โดยวิธีผิดกฎหมาย และผลการดำเนินการจับกุมคดีเกี่ยวกับหนี้นอกระบบที่ผ่านมา

โดยในวันนี้ จากการระดมกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง และได้เข้าทำการตรวจค้น 2 จุด ที่ บ.นาเสียว ต.นาเสียว อ.เมือง และ ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เขตติดต่อ จำนวน 5 จุดที่ อ.จัตุรัส,เทพสถิต,แก้งคร้อ ,หนองบัวแดงและ ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 36 คน และตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก ได้แก่ เงินสด 142, 660 บาท, รถจักรยานยนต์ 19 คัน , รถปิกอัพ 3 คัน ,คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง , สมุดบัญชีลูกหนี้ ,ใบเสร็จรับเงิน, ตารางชำระเงินค่างวดและอื่นๆอีกจำนวนมาก

นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่ได้ร่วมบูรณาการทำงานระหว่างตำรวจภูธรภาค 3 ,ตำรวจภูธรจังหวัดฯ และทางจังหวัดชัยภูมิ มีการตั้งจุดสกัดในจังหวัด กว่า 60 จุด ตั้งศูนย์ร้องเรียน ร้องทุกข์กว่า 40 จุด

ทั้งนี้ ปัญหาหนี้นอกระบบของจังหวัดชัยภูมิมีมาก นายทุนส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด เช่นสมุทรสงคราม ,เลย และ อุทัยธานี และ นายทุนในพื้นที่ก็มีการลงขันกันปล่อยเงินกู้ จากรายงานจังหวัดชัยภูมิ มีการลงทะเบียนแจ้งหนี้นอกระบบทั้งหมด 4,574 ราย รวมมูลหนี้เป็นเงิน 475 ล้านบาท ในจำนวนนี้ ภายในเดือนม.ค.ปีนี้จะใช้มาตรการประนอมหนี้โดยมีฝ่ายปกครองร่วมด้วย

โดยที่ผ่านมาประชาชนได้มารับเอกสารขึ้นทะเบียนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบกันเป็นจำนวนมาก แต่มาลงทะเบียนน้อย ซึ่งไม่ใช่ประชาชนไม่กล้ามาลง แต่ไม่สามารถนำเอกสารนายทุนมาได้ เพราะนายทุนกลัวเรื่องการเก็บภาษี ซึ่งเป็นปัญหาในทุกพื้นที่ นอกจากนี้การคิดอัตราดอกเบี้ยที่ชาวบ้านยังเข้าใจผิด เช่น กู้เงินร้อยละ 3 กู้ทั้งหมด 3 แสน แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยทั้งปี 3 หมื่นบาท ซึ่งจริงๆ เท่ากับเสียอัตราดอกเบี้ยถึงร้อยละ 30 ซึ่งต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านในเรื่องนี้ด้วย

จากนั้นต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมส่งเสริมอาชีพ และรายได้ของประชาชน และสนับสนุนการใช้ชีวิตแบบพอเพียง เพื่อไม่ให้กลับเข้ามาสู่วงจรหนี้นอกระบบแบบยั่งยืน

ด้าน พ.ต.อ.สาธิต ตชยภพ รักษาการผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าปัญหาหนี้นอกระบบทำเป็นขบวนการ ผู้กระทำผิดที่จับกุมได้ในวันนี้ เป็นส่วนน้อยที่อยู่ในขบวนการเท่านั้น ซึ่งต้องมีการขยายผลหาต้นตอและต้องมีการถอนรากถอนโคนต่อไป โดยจะต้องเริ่มต้นที่ลิ่วล้อ 2 ส่วนคือ

ส่วนที่รับจ้างเก็บเงิน ซึ่งเป็นการป้องปราม ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลประวัติอาชญากร จากนั้นตรวจสอบความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยการตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ จากนั้นจะดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐาน เช่น สมุดทะเบียน ,ระบบบัญชี,คอมพิวเตอร์ ,โทรศัพท์ เพื่อรวบรวมข้อมูล ออกหมายจับ โดยเฉพาะต้นตอผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ประชาชนถึงจะไม่เดือดร้อน

“ดังนั้น ต้องขอความร่วมมือกับประชาชนในการรวบรวมพยานหลักฐาน ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะประชาชนในพื้นที่จะเป็นผู้รู้เห็นมากกว่าเจ้าหน้าที่ เป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ตัดวงจรปัญหาหนี้นอกระบบอีกทางหนึ่ง ซึ่งสามารถแจ้งมาได้ที่ ศูนย์ร้องทุกข์การติดตามทวงหนี้โดยวิธีผิดกฎหมาย ของตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ และ สถานีตำรวจภูธรในสังกัดทุกสถานี” พ.ต.อ.สาธิต กล่าว



กำลังโหลดความคิดเห็น