น่าน - จังหวัดน่านจับมือ อบจ.-เทศบาลฯ พร้อมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย จัดฟรีการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง สนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระราชินี
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า จังหวัดน่าน ได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ เทศบาลเมืองน่าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวิทยาเขตจังหวัดน่าน และผู้อุปถัมภ์สนับสนุน จัดฟรีการแสดงโขน ศาลาเฉลิมกรุง ชุด “หนุมานชาญกำแหง” ขึ้นที่บริเวณพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจังหวัดน่าน ในวันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม 2552 เวลา 19.00 น.
ทั้งนี้ เพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ต้องการให้รักษา และอนุรักษ์ศิลปะ การแสดงนาฏศิลป์โขน ซึ่งเป็นการแสดงสำหรับชนชั้นสูงในอดีต และหาดูได้ยากพอสมควร นอกจากจะมีวาระ หรือโอกาสพิเศษ หรือการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองเท่านั้น เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงแหล่งศิลปะและวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ และตกทอดสู่เยาวชนรุ่นหลัง
สำหรับการแสดงโขน เป็นการนำท่าทางในการต่อสู้ที่โลดโผน และท่ารำอาวุธจากการเล่นกระบี่กระบองอันเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวมาดัดแปลงเป็นท่ารำ เป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย มีมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา โขนในกรุงรัตนโกสินทร์ได้สืบทอดแบบแผนต่อมาถือเป็นการแสดงชั้นสูงของราชสำนัก โขนรุ่งเรืองที่สุดในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอุปถัมภ์ดูแลทั้งการฝึกหัดเล่นโขนและเหล่าศิลปินโขน ใน พ.ศ.2478 โขนหลวงได้โอนอยู่ในสังกัดกรมศิลปกร ข้าราชการศิลปินทางโขนและละครจึงย้ายมาในกรมศิลปกรตั้งแต่บัดนั้น
การแสดงโขนเฉลิมกรุง ชุดหนุมานชาญกำแหง ครั้งนี้จะถ่ายทอดความงดงามของนาฏศิลป์โดยเยาวชนรุ่นใหม่จากทั่วประเทศที่ได้รับการคัดเลือกกว่า 100 ชีวิตที่ผ่านการฝึกนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยจากหลายสถาบันชั้นนำ ภายใต้การควบคุมดูแลการฝึกซ้อมของคณะครูและผู้เชี่ยวชาญจากวิทยาลัยนาฏศิลป์และกรมศิลปกร และผู้กำกับการแสดงในครั้งนี้เป็นอาจารย์จากกรมศิลปากร ที่มีประสบการณ์ยาวนาน
ความพิเศษของโขนศาลาเฉลิมกรุงนั้น ทุกฉากในเรื่องจะแบ่งเป็น 8 ฉาก จะดำเนินเรื่องราวสั้นกระชับ ใช้เวลาในการแสดงเพียงหนึ่งชั่วโมง จากปกติต้องใช้เวลาในการแสดงประมาณ 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป
จึงขอเชิญชวนชาวน่านร่วมชมฟรีการแสดงโขนครั้งนี้ เนื่องจากเป็นการแสดงที่หาดูได้ยาก พร้อมกับฝากด้วยว่าการแสดงโขนนั้นเป็นมรดกของไทย เป็นเอกลักษณ์ของชาติ เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษสร้างไว้ ซึ่งใช้เวลาในการสร้างมากกว่าร้อยปี กว่าจะมาเป็นการแสดงโขนให้เห็นในปัจจุบันต้องผ่านขั้นตอน การปรับปรุงแก้ไขต่างๆ มากมาย จึงเป็นสิ่งหนึ่งที่คนไทยควรภาคภูมิใจ และเชื่อว่าไม่มีการแสดงใดในโลกจะงดงามตระการตาได้เท่ากับการแสดงโขนของไทย