ระยอง - เกิดก๊าซรั่วจากเรือขนส่งสินค้า บริเวณท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง ตั้งแต่บ่ายวันที่ 5 ธ.ค. ล่าสุดวันนี้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบมีอาการหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก แสบตา ตาพร่า จนท.จึงนำส่งรพ.เพิ่มอีก 5 ราย บริษัทเอกชนปิดปากเงียบ ยันไม่มีผู้บาดเจ็บ ด้าน ตร.เตรียมรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตาม กม.
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดก๊าซรั่วจากเรือขนส่งสินค้า นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด บริเวณท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (5 ธ.ค.) ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ได้รับผลกระทบหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก มีอาการแสบตา ตาพร่า เจ้าหน้าที่จึงนำส่งโรงพยาบาลอีก 5 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 วานนี้ โดยเรือลำเกิดเหตุได้เคลื่อนเข้าจอดเทียบท่าเพื่อขนถ่ายสินค้า แต่ขณะเคลื่อนเข้าใกล้ เกิดเหตุก๊าซหุงต้มในเรือรั่วออกมา ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณตะกั่วอ่าวประดู่ และคนงานที่ทำงานอยู่ในขณะนั้นได้สูดดมก๊าซดังกล่าวในระยะใกล้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 18 ราย
ทั้งนี้ จากการสอบถาม พ.ต.ท. เวียง วงศ์เพียร รองผู้กำกับการ สภ.มาบตาพุด เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามสอบถามไปยังเจ้าของบริษัทและเรือลำเกิดเหตุ ถึงยอดผู้บาดเจ็บ แต่บริษัทกลับให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผู้บาดเจ็บ จนกระทั่งโรงพยาบาลกรุงเทพ-ระยอง แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
ล่าสุด นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการ จ.ระยอง เปิดเผยถึงความคืบหน้า ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีประชาชนและคนงานที่ทำงานอยู่ในขณะนั้น สูดดมก๊าซดังกล่าวในระยะใกล้ชิด จึงได้รับบาดเจ็บด้วยอาการหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก แสบตา และตาพร่า ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลกรุงเทพฯ-ระยอง ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ รวม 20 ราย ล่าสุดวันนี้ แพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 15 ราย ส่วนอีก 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก และผู้สูงอายุ แพทย์ให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อรอดูอาการอีกระยะ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามอาการผู้ป่วยทั้ง 15 ราย อีกประมาณ 1 สัปดาห์
ผู้ว่าราชการ จ.ระยอง กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้เข้าไปตรวจวัดระดับก๊าซในอากาศ บริเวณที่เกิดเหตุแล้ว โดยไม่พบมีกลิ่นก๊าซตกค้าง ส่วนสาเหตุการเกิดก๊าซรั่วไหลครั้งนี้ สำนักงานท่าเรือจะต้องเข้าไปตรวจสอบว่า กรณีปัญหาเซฟตี้วาล์วรั่วนั้น เกิดจากความบกพร่องของคนงาน หรือจากสาเหตุใด
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดก๊าซรั่วจากเรือขนส่งสินค้า นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด บริเวณท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (5 ธ.ค.) ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ได้รับผลกระทบหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก มีอาการแสบตา ตาพร่า เจ้าหน้าที่จึงนำส่งโรงพยาบาลอีก 5 ราย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 วานนี้ โดยเรือลำเกิดเหตุได้เคลื่อนเข้าจอดเทียบท่าเพื่อขนถ่ายสินค้า แต่ขณะเคลื่อนเข้าใกล้ เกิดเหตุก๊าซหุงต้มในเรือรั่วออกมา ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยบริเวณตะกั่วอ่าวประดู่ และคนงานที่ทำงานอยู่ในขณะนั้นได้สูดดมก๊าซดังกล่าวในระยะใกล้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 18 ราย
ทั้งนี้ จากการสอบถาม พ.ต.ท. เวียง วงศ์เพียร รองผู้กำกับการ สภ.มาบตาพุด เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามสอบถามไปยังเจ้าของบริษัทและเรือลำเกิดเหตุ ถึงยอดผู้บาดเจ็บ แต่บริษัทกลับให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีผู้บาดเจ็บ จนกระทั่งโรงพยาบาลกรุงเทพ-ระยอง แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
ล่าสุด นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการ จ.ระยอง เปิดเผยถึงความคืบหน้า ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีประชาชนและคนงานที่ทำงานอยู่ในขณะนั้น สูดดมก๊าซดังกล่าวในระยะใกล้ชิด จึงได้รับบาดเจ็บด้วยอาการหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก แสบตา และตาพร่า ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลกรุงเทพฯ-ระยอง ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ รวม 20 ราย ล่าสุดวันนี้ แพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 15 ราย ส่วนอีก 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็ก และผู้สูงอายุ แพทย์ให้นอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล เพื่อรอดูอาการอีกระยะ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สาธารณสุขจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามอาการผู้ป่วยทั้ง 15 ราย อีกประมาณ 1 สัปดาห์
ผู้ว่าราชการ จ.ระยอง กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่สำนักงานการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ได้เข้าไปตรวจวัดระดับก๊าซในอากาศ บริเวณที่เกิดเหตุแล้ว โดยไม่พบมีกลิ่นก๊าซตกค้าง ส่วนสาเหตุการเกิดก๊าซรั่วไหลครั้งนี้ สำนักงานท่าเรือจะต้องเข้าไปตรวจสอบว่า กรณีปัญหาเซฟตี้วาล์วรั่วนั้น เกิดจากความบกพร่องของคนงาน หรือจากสาเหตุใด