เชียงราย – รวบได้อีกโสมแดงลอบเข้าไทยผ่านชายแดนน้ำโขง ก่อนนั่งรถทัวร์มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯหน้าตาเฉย รอเวลาบินเข้าเกาหลีใต้ต่อ เผยยอดจับกุมคนเกาหลีเหนือลอบเข้าไทยในพื้นที่เชียงรายเพิ่มทุกเดือน เชื่อมีขบวนการค้าคนอยู่เบื้องหลัง
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า พ.ต.ท.อนันต์ นิรุตินนท์ รอง ผกก.ป.สภ.แม่จัน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง ซึ่งอยู่บนถนนพหลโยธิน ต.แม่จัน อ.แม่จัน ว่า ได้มีชาวเกาหลีเหนือนั่งรถโดยสารผ่านด่านตรวจจำนวนหลายคน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับการเข้าออกเมืองปรากฏว่าทั้งหมดไม่มีให้ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวเอาไว้เมื่อ 3 ธ.ค.52
จากนั้นนำตัวไปทำการสอบปากคำที่ สภ.แม่จัน ซึ่งพบว่าเป็นผู้หญิงมีอายุตั้งแต่ 20-45 ปี จำนวน 8 คนและเป็นเด็กเล็กอายุเพียง 1 ขวบจำนวน 1 คน
สอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ทั้งหมดได้ลักลอบหนีออกจากประเทศเกาหลีเหนือทาง จ.อัมยุงบุตโต ชายแดนเกาเหลีเหนือ-จีน และเดินทางผ่านประเทศจีนก่อนจะนั่งเรือในแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งที่ อ.เชียงแสน แล้วนั่งรถเมล์โดยสารประจำทาง เพื่อจะเข้าไปต่อรถไปยังกรุงเทพฯ ในเขต อ.เมืองเชียงราย โดยมีเป้าหมายจะเดินทางต่อไปอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ ชั่วคราวก่อนจะหาวิธีเดินทางต่อไปด้วยเครื่องบินไปยังประเทศเกาหลีใต้ต่อไป แต่เมื่อถึงด่านตรวจก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในปัจจุบัน จ.เชียงราย มีการจับกุมชาวเกาหลีเหนือลักลอบเข้าเมืองเป็นประจำเดือนละหลายสิบคน โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้หญิง คนชราและเด็ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีกลุ่มขบวนการที่คอยช่วยเหลือคนเหล่านี้มาตลอดรายทาง
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า มีกลุ่มชาวเกาหลีใต้กลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันเป็นขบวนการเพื่อช่วยเหลือ โดยมีการวางเครือข่ายเอาไว้ทั้งในประเทศเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ จีน สปป.ลาว พม่า และประเทศไทย
จากนั้นขบวนการนี้จะมีการติดต่อกับชาวเกาหลีใต้ ที่มีญาติอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ เพื่อต่อรองราคากรณีสามารถนำญาติจากเกาหลีเหนือหนีไปอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ได้ เมื่อได้รับการยินยอมและตกลงเรื่องราคากันแล้วก็จะพาหลบหนีเข้าสู่ประเทศจีน และวางเครือข่ายช่วยเหลือด้านการเดินทาง ที่พักและอาหารตลอดรายทาง กระทั่งถึงชายแดนจีน-สปป.ลาว ซึ่งเป็นแม่น้ำโขงก็มักจะใช้การนั่งโดยสารมากับเรือสินค้าในแม่น้ำโขง และขึ้นฝั่งที่เมืองมอม แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร และว่าจ้างนั่งเรือเร็วให้นำไปส่งที่ฝั่งไทยในที่สุด
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า พ.ต.ท.อนันต์ นิรุตินนท์ รอง ผกก.ป.สภ.แม่จัน ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ด่านตรวจกิ่วทัพยั้ง ซึ่งอยู่บนถนนพหลโยธิน ต.แม่จัน อ.แม่จัน ว่า ได้มีชาวเกาหลีเหนือนั่งรถโดยสารผ่านด่านตรวจจำนวนหลายคน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารเกี่ยวกับการเข้าออกเมืองปรากฏว่าทั้งหมดไม่มีให้ เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวเอาไว้เมื่อ 3 ธ.ค.52
จากนั้นนำตัวไปทำการสอบปากคำที่ สภ.แม่จัน ซึ่งพบว่าเป็นผู้หญิงมีอายุตั้งแต่ 20-45 ปี จำนวน 8 คนและเป็นเด็กเล็กอายุเพียง 1 ขวบจำนวน 1 คน
สอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้ทั้งหมดได้ลักลอบหนีออกจากประเทศเกาหลีเหนือทาง จ.อัมยุงบุตโต ชายแดนเกาเหลีเหนือ-จีน และเดินทางผ่านประเทศจีนก่อนจะนั่งเรือในแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งที่ อ.เชียงแสน แล้วนั่งรถเมล์โดยสารประจำทาง เพื่อจะเข้าไปต่อรถไปยังกรุงเทพฯ ในเขต อ.เมืองเชียงราย โดยมีเป้าหมายจะเดินทางต่อไปอาศัยอยู่กับญาติที่กรุงเทพฯ ชั่วคราวก่อนจะหาวิธีเดินทางต่อไปด้วยเครื่องบินไปยังประเทศเกาหลีใต้ต่อไป แต่เมื่อถึงด่านตรวจก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าในปัจจุบัน จ.เชียงราย มีการจับกุมชาวเกาหลีเหนือลักลอบเข้าเมืองเป็นประจำเดือนละหลายสิบคน โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้หญิง คนชราและเด็ก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีกลุ่มขบวนการที่คอยช่วยเหลือคนเหล่านี้มาตลอดรายทาง
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า มีกลุ่มชาวเกาหลีใต้กลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกันเป็นขบวนการเพื่อช่วยเหลือ โดยมีการวางเครือข่ายเอาไว้ทั้งในประเทศเกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ จีน สปป.ลาว พม่า และประเทศไทย
จากนั้นขบวนการนี้จะมีการติดต่อกับชาวเกาหลีใต้ ที่มีญาติอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ เพื่อต่อรองราคากรณีสามารถนำญาติจากเกาหลีเหนือหนีไปอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ได้ เมื่อได้รับการยินยอมและตกลงเรื่องราคากันแล้วก็จะพาหลบหนีเข้าสู่ประเทศจีน และวางเครือข่ายช่วยเหลือด้านการเดินทาง ที่พักและอาหารตลอดรายทาง กระทั่งถึงชายแดนจีน-สปป.ลาว ซึ่งเป็นแม่น้ำโขงก็มักจะใช้การนั่งโดยสารมากับเรือสินค้าในแม่น้ำโขง และขึ้นฝั่งที่เมืองมอม แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 15 กิโลเมตร และว่าจ้างนั่งเรือเร็วให้นำไปส่งที่ฝั่งไทยในที่สุด