ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าของร้านขายแก๊ส เข้าแจ้งตำรวจเมืองชลบุรี ให้ช่วยจับคนร้ายสวมทะเบียนรถตนเองไปใช้หลังรับภาพปรินต์จากกล้องวงจรปิดของตำรวจทางหลวงชลบุรี ให้ไปเสียค่าปรับ ขับเร็ว
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ สภ.เมืองชลบุรี นายวิศาล ศรีปวิธ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านขายแก๊ส เลขที่ 694/10 ถ.สุขุมวิท ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี นำหลักฐานเป็นภาพปริ๊น รูปรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กย 3456 ชลบุรี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ให้ดำเนินคดี และจับกุมคนร้ายที่นำเอาทะเบียนรถยนต์ของตนเอง คือ กย 3456 ชลบุรี ไปใช้
จนกระทั่งถูกตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 3 ชลบุรี จับกุมทางกล้องวงจรปิด ในข้อหา ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 150 กม./ชม.และให้ตนเดินทางไปจ่ายค่าปรับ หลังจากที่ตำรวจทางหลวง นำภาพปริ๊นจากกล้องวงจรปิด แล้วส่ง จม.ให้ตนเอง เมื่อวันก่อน
ทั้งนี้ นายวิศาล กล่าวว่า หลังจากดูภาพแล้ว พบว่า คนร้ายนำเอาทะเบียนของตนเองไปใช้อย่างแน่นอน เพราะรถยนต์ของตนเอง สีขาว กรอบทะเบียนก็ไม่เหมือน ตำแหน่งสติกเกอร์ รวมไปถึงกระจกมองมุม รวมไปถึงที่ครอบมือบิดประตู
หลังจาก พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ตรวจสอบพบว่า เป็นการสวมทะเบียนจริง จึงนำภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับ แจ้ง สทล.2กก.3 ชลบุรี โดยไม่ต้องจ่ายค่าปรับ และรับปากจะดำเนินการติดตามคนร้ายรายนี้ต่อไป
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่ สภ.เมืองชลบุรี นายวิศาล ศรีปวิธ อายุ 32 ปี เจ้าของร้านขายแก๊ส เลขที่ 694/10 ถ.สุขุมวิท ต.บางปลาสร้อย อ.เมือง จ.ชลบุรี นำหลักฐานเป็นภาพปริ๊น รูปรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน กย 3456 ชลบุรี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ให้ดำเนินคดี และจับกุมคนร้ายที่นำเอาทะเบียนรถยนต์ของตนเอง คือ กย 3456 ชลบุรี ไปใช้
จนกระทั่งถูกตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 3 ชลบุรี จับกุมทางกล้องวงจรปิด ในข้อหา ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 150 กม./ชม.และให้ตนเดินทางไปจ่ายค่าปรับ หลังจากที่ตำรวจทางหลวง นำภาพปริ๊นจากกล้องวงจรปิด แล้วส่ง จม.ให้ตนเอง เมื่อวันก่อน
ทั้งนี้ นายวิศาล กล่าวว่า หลังจากดูภาพแล้ว พบว่า คนร้ายนำเอาทะเบียนของตนเองไปใช้อย่างแน่นอน เพราะรถยนต์ของตนเอง สีขาว กรอบทะเบียนก็ไม่เหมือน ตำแหน่งสติกเกอร์ รวมไปถึงกระจกมองมุม รวมไปถึงที่ครอบมือบิดประตู
หลังจาก พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.สภ.เมืองชลบุรี ตรวจสอบพบว่า เป็นการสวมทะเบียนจริง จึงนำภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับ แจ้ง สทล.2กก.3 ชลบุรี โดยไม่ต้องจ่ายค่าปรับ และรับปากจะดำเนินการติดตามคนร้ายรายนี้ต่อไป