ฉะเชิงเทรา - ความคืบหน้ากรณีนักเรียน ชั้น ป.5 วัย 11 ขวบ มือกลองยาวประกวดเมืองแปดริ้ว ถูกคนร้ายลวงลากข่มขืนฆ่ารัดคอทิ้งกลางไร่มันสำปะหลัง ยังไม่คืบ ขณะพยานแวดล้อมเริ่มสับสน ยังขัดแย้งกัน ด้านตำรวจควานจับคนพื้นที่เข้าข่ายต้องสงสัย สุ่มเก็บหาตัวอย่างส่งตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบ คาดไม่นานได้รู้ผลใครคือฆาตกรเหี้ยมรายนี้
วันนี้ (23 พ.ย.) พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รักษาราชการแทน ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความคืบหน้า กรณี ดญ.นันทิชา มูลสูตร หรือ น้องเฟิร์น อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านท่าซุง ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ถูกคนร้ายบุกลวงฉุดออกจากบ้านพักกลางดึก ก่อนพาไปข่มขืนฆ่ารัดคอทิ้ง ที่บริเวณกลางไร่มันสำปะหลัง ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากด้านหลังวัดท่าซุงเก่า ประมาณ 300 เมตร จนมีผู้มาพบศพเมื่อช่วงสายวานนี้ ว่า ขณะนี้ ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่หลายคน มาทำการตรวจสอบ และเก็บตัวอย่างทั้งเส้นผม เส้นขน เพื่อส่งไปตรวจหาดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับหลักฐานที่สามารถเก็บได้จากตัวผู้ตาย
รวมทั้งรอยเท้าที่พบในที่เกิดเหตุด้วย นอกจากนี้ ยังได้นำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนเพิ่มเติม และเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงทำงานในพื้นที่ตลอดทั้งวัน รวมทั้งยังได้เข้าไปตรวจดูที่เกิดเหตุ เพื่อหารายละเอียดจากในที่เกิดเหตุอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังได้ติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยบางส่วนที่ยังไม่ปรากฏตัว และยังอยู่ระหว่างการไล่ล่าติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าผู้ตายนั้นถูกคนร้ายกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ก่อนที่จะลงมือ อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ หรือไม่ไกลจากบ้านพักของผู้ตาย ก่อนที่จะถูกนำมาข่มขืน และลงมือฆ่าทิ้งปิดปากอย่างโหดเหี้ยมในที่เกิดเหตุ และเชื่อว่า คนร้ายต้องเป็นคนในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะรู้ว่าเด็กอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว และมีความคุ้นเคยกับเด็กเป็นอย่างดี เพราะดูจากสภาพศพแล้วเด็กไม่ได้ถูกพันธนาการมาก่อน จึงเชื่อได้ว่าเป็นการถูกล่อลวงไป
ส่วนรอยเท้าที่เก็บตัวอย่างได้จากในที่เกิดเหตุนั้น ได้หล่อด้วยปูนปลาสเตอร์เตรียมนำมาไว้เปรียบเทียบเป็นพยานหลักฐานประกอบร่วมกับพยานหลักฐานอื่นๆ อีกด้วย โดยในรายละเอียดด้านอื่นนั้น เป็นเรื่องของการสืบสวน หากถูกเปิดเผยออกไป จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากยิ่งขึ้น
ด้าน พ.ต.ท.ประวัติ แพพ่วง รอง ผกก. สภ.สนามชัยเขต กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีเมื่อเวลา 15.00 น.ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองแยกผู้ต้องสงสัยไว้เหลือเพียง 4 ราย ที่น่าสงสัยมากที่สุด โดยกำลังถูกนำมาสอบสวนเค้นหาความจริงในขณะนี้ ส่วนศพของผู้ตายนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ส่งไปชันสูตรยังสถาบันนิติเวชเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ซึ่งจากผลการตรวจชันสูตรของทางแพทย์จาก รพ.สนามชัยเขต นั้น ได้ระบุว่า เด็กได้เสียชีวิตตั้งแต่คืนวันที่หายตัวไป หรือไม่เกิน 48 ชม.ก่อนมีผู้มาพบศพ ขณะที่ในวันที่มีผู้มาพบศพเด็ก สภาพของตัวเด็กนั้นยังคงอุ่นอยู่ จึงขัดแย้งกัน
ขณะที่ นางบังอร เจริญแพทย์ อายุ 58 ปี กำนันตำบลลาดกระทิง กล่าวว่า ขณะนี้ทางญาติ ของเด็กที่เสียชีวิต ได้รับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดอัมพัล ในหมู่บ้าน กม.7 เส้นทางมุ่งหน้าไปยัง อ.ท่าตะเกียบ แล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เนื่องจากมีญาติส่วนใหญ่ของเด็กอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนั้นจำนวนมาก
ส่วนบรรยากาศภายในโรงเรียนบ้านท่าซุงในวันนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา บรรดาครูอาจารย์ในโรงเรียนต่างพากันนิ่งเงียบ ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ถือว่าเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาขนาดใหญ่ของตำบล ที่มีเด็กนักเรียนมากถึง 300 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึง ป.6 โดยมีครูสอนในโรงเรียนเพียง 10 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูผู้หญิง ส่วนครูผู้ชายล้วนมีอายุมากแล้ว
วันนี้ (23 พ.ย.) พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รักษาราชการแทน ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงความคืบหน้า กรณี ดญ.นันทิชา มูลสูตร หรือ น้องเฟิร์น อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านท่าซุง ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ถูกคนร้ายบุกลวงฉุดออกจากบ้านพักกลางดึก ก่อนพาไปข่มขืนฆ่ารัดคอทิ้ง ที่บริเวณกลางไร่มันสำปะหลัง ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากด้านหลังวัดท่าซุงเก่า ประมาณ 300 เมตร จนมีผู้มาพบศพเมื่อช่วงสายวานนี้ ว่า ขณะนี้ ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่หลายคน มาทำการตรวจสอบ และเก็บตัวอย่างทั้งเส้นผม เส้นขน เพื่อส่งไปตรวจหาดีเอ็นเอ เปรียบเทียบกับหลักฐานที่สามารถเก็บได้จากตัวผู้ตาย
รวมทั้งรอยเท้าที่พบในที่เกิดเหตุด้วย นอกจากนี้ ยังได้นำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนเพิ่มเติม และเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงทำงานในพื้นที่ตลอดทั้งวัน รวมทั้งยังได้เข้าไปตรวจดูที่เกิดเหตุ เพื่อหารายละเอียดจากในที่เกิดเหตุอีกครั้ง
นอกจากนี้ ยังได้ติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยบางส่วนที่ยังไม่ปรากฏตัว และยังอยู่ระหว่างการไล่ล่าติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าผู้ตายนั้นถูกคนร้ายกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ก่อนที่จะลงมือ อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ หรือไม่ไกลจากบ้านพักของผู้ตาย ก่อนที่จะถูกนำมาข่มขืน และลงมือฆ่าทิ้งปิดปากอย่างโหดเหี้ยมในที่เกิดเหตุ และเชื่อว่า คนร้ายต้องเป็นคนในพื้นที่อย่างแน่นอน เพราะรู้ว่าเด็กอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว และมีความคุ้นเคยกับเด็กเป็นอย่างดี เพราะดูจากสภาพศพแล้วเด็กไม่ได้ถูกพันธนาการมาก่อน จึงเชื่อได้ว่าเป็นการถูกล่อลวงไป
ส่วนรอยเท้าที่เก็บตัวอย่างได้จากในที่เกิดเหตุนั้น ได้หล่อด้วยปูนปลาสเตอร์เตรียมนำมาไว้เปรียบเทียบเป็นพยานหลักฐานประกอบร่วมกับพยานหลักฐานอื่นๆ อีกด้วย โดยในรายละเอียดด้านอื่นนั้น เป็นเรื่องของการสืบสวน หากถูกเปิดเผยออกไป จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากยิ่งขึ้น
ด้าน พ.ต.ท.ประวัติ แพพ่วง รอง ผกก. สภ.สนามชัยเขต กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีเมื่อเวลา 15.00 น.ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองแยกผู้ต้องสงสัยไว้เหลือเพียง 4 ราย ที่น่าสงสัยมากที่สุด โดยกำลังถูกนำมาสอบสวนเค้นหาความจริงในขณะนี้ ส่วนศพของผู้ตายนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ส่งไปชันสูตรยังสถาบันนิติเวชเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ซึ่งจากผลการตรวจชันสูตรของทางแพทย์จาก รพ.สนามชัยเขต นั้น ได้ระบุว่า เด็กได้เสียชีวิตตั้งแต่คืนวันที่หายตัวไป หรือไม่เกิน 48 ชม.ก่อนมีผู้มาพบศพ ขณะที่ในวันที่มีผู้มาพบศพเด็ก สภาพของตัวเด็กนั้นยังคงอุ่นอยู่ จึงขัดแย้งกัน
ขณะที่ นางบังอร เจริญแพทย์ อายุ 58 ปี กำนันตำบลลาดกระทิง กล่าวว่า ขณะนี้ทางญาติ ของเด็กที่เสียชีวิต ได้รับศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศล ที่วัดอัมพัล ในหมู่บ้าน กม.7 เส้นทางมุ่งหน้าไปยัง อ.ท่าตะเกียบ แล้วเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เนื่องจากมีญาติส่วนใหญ่ของเด็กอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนั้นจำนวนมาก
ส่วนบรรยากาศภายในโรงเรียนบ้านท่าซุงในวันนี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา บรรดาครูอาจารย์ในโรงเรียนต่างพากันนิ่งเงียบ ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้ถือว่าเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษาขนาดใหญ่ของตำบล ที่มีเด็กนักเรียนมากถึง 300 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึง ป.6 โดยมีครูสอนในโรงเรียนเพียง 10 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูผู้หญิง ส่วนครูผู้ชายล้วนมีอายุมากแล้ว
