ฉะเชิงเทรา - ตำรวจแปดริ้วแถลงจับสองผัวเมียอุ้มท้อง 2 เดือน ขนยาบ้าส่งขายแรกค่าจ้าง 500 บาท พร้อมขยายผลบุกตามยึดของกลาง ที่แพ็กซุกซ่อนใส่กระบอกบรรจุมันฝรั่งยี่ห้อดัง พร้อมผนึกกาวซีนล์จนติดแน่นมิดชิด ได้อีกกว่า 1.5 แสนเม็ด จากสายส่งในเครือข่ายเรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี ขณะตัวการเดินเกมไหวตัวทันหลบหนีไปได้
วันนี้ (23 พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี รอง ผบช. ภ.2 พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.สมฤกษ์ ค้ำชู, พ.ต.ท.ณัฏฐ์ธรดล อภิธารสกุลศิริ รอง ผกก. สภ.แปลงยาว และ พ.ต.ต.วินัย ยิ้มละมัย สวป.สภ.แปลงยาว พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดกับกุม ได้ร่วมกันแถลงข่าว ถึงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และขยายผลการจับกุม จนสามารถยึดของกลางมาได้เป็นจำนวนมาก ถึงกว่า 158,000 เม็ด มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
ทั้งหมดร่วมกันแถลงว่า จากการสืบสวน และล่อซื้อยาบ้า จนสามารถจับกุมตัว นายสุธี หรือ เอ ทองสุข อายุ 19 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่ ต.พวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี และ น.ส.สิริพรรณ หรือโม แย้มแสน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.5 ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทั้งสองคนเป็นสามีภรรยากัน และฝ่ายหญิงกำลังตั้งครรภ์ ได้ประมาณ 2 เดือนเศษ ขณะกำลังนำยาบ้าจำนวน 6,000 เม็ด มาส่งมอบให้แก่สายล่อซื้อของเจ้าหน้าที่ บริเวณภายในปั้มน้ำมัน ทีพีไอ ริมถนนสาย 331 ม.11 ต.แปลงยาว ท้องที่ สภ.แปลงยาว เมื่อเวลา 20.00 น.ของเมื่อคืนที่ผ่านมา (22 พ.ย.)
ผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นเพียงคนรับจ้างนำยาบ้ามาส่งมอบให้แก่ลูกค้า ตามที่ นายพรเทพ พุทธรักษา หรือชื่อตามประวัติทะเบียนราษฎร คือ นายพงศ์สุธี พุทธรักษา (แดง หรือนิก) อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยได้ค่าจ้างนำยาบ้ามาส่งมอบเพียง 500 บาทเท่านั้น
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการขยายผล ติดตามไปยังที่บ้านพักของนายพงศ์สุธี แต่ไหวตัวทัน หลบหนีไปได้เสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังสามารถติดตามไปทำการตรวจยึดยาบ้าไว้ได้อีกจำนวนมากถึง 152,000 เม็ด จากภายในบ้านพักทาวเฮาส์ เลขที่ 165/488 ม.3 หมู่บ้านพงษ์เจริญ ซ.9 อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่ง นายพงศ์สุธี ได้เช่าไว้สำหรับเก็บพักยาบ้าโดยเฉพาะ โดยไม่ได้เข้ามาอยู่อาศัย
ยาบ้าทั้งหมดถูกบรรจุไว้ภายในกระบอกขนมขบเคี้ยว มันฝรั่งยี่ห้อเลย์ มีทั้งรสดั้งเดิม กระบอกสีเหลือง และรสสาหร่าย กระบอกสีเขียว จำนวน 38 กระบอก โดยบรรจุยาบ้าไว้ในกระบอกละ 2 มัด (4,000 เม็ด) พร้อมปิดผนึกซีนล์กาวฝาอะลูมิเนียมฟอยล์ไว้อย่างดี จนไม่มีกลิ่นออกมายังด้านนอก คล้ายกับการบรรจุมันฝรั่งส่งตรงมาจากโรงงาน ที่ยังไม่ได้มีการเปิดผนึกฝาออก
พ.ต.อ.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ กล่าวว่า ยาบ้าทั้งหมดที่ทำการตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้ มีมูลค่ามากถึง 39,500,000-47,400,000 บาท เมื่อเทียบกับราคาจำหน่ายขายปลีกในปัจจุบัน ที่มีราคาสูงถึงเม็ดละ 250-300 บาท
ขณะที่ พ.ต.ต.วินัย ยิ้มละมัย สวป. สภ.แปลงยาว ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด นำกำลังไปทำการล่อซื้อจับกุม กล่าวว่า กลุ่มขบวนการค้ายาบ้าแก๊งค์นี้ เป็นขบวนการใหญ่ ที่มีตัวการสำคัญอยู่ภายในเรือนจำกลางจังหวัดชลบุรี โดยมีวิธีการสั่งซื้อขายยาบ้ากันอย่างรัดกุม โดยสั่งซื้อกันผ่านทางโทรศัพท์มือถือ จากนั้นผู้สั่งซื้อจะต้องทำการโอนเงินเข้าบัญชีปลายทางตามที่ ผู้ค้ายาบ้าระบุ ภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ชุดล่อซื้อไม่สามารถทำการโอนเงินได้ทันเวลา หรือยอดจำนวนเงินไม่ตรง การสั่งซื้อก็จะล้มเหลว เพราะผู้บงการจะสามารถจับผิดได้
การล่อซื้อยาบ้าในครั้งนี้ ได้ใช้เงินสดส่วนตัวทำการโอนล่อซื้อไปถึงกว่า 1 แสนบาท เพราะเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อเป็นการวางมัดจำให้แก่ขบวนการค้ายาบ้ารายนี้ตายใจ ซึ่งตามราคาที่ตกลงซื้อขายกันในครั้งนี้นั้น ตกลงกันที่ยาบ้าจำนวน 3 มัด ราคา 660,000 บาท และยังไม่รู้ว่าจะได้เงินล่อซื้อคืนจากใคร
น.ส.สิริพรรณ กล่าวว่า ตนนั้นมีอาชีพเป็นนักร้องในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในตัวเมือง จ.ชลบุรี ส่วนสามีนั้น ทำงานเป็นช่างซ่อมรถยนต์ภายในอู่ซ่อมรถในตัวเมืองชลบุรีเช่นเดียวกัน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ ตำรวจภูธรภาค 2 ที่ผ่านมา ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะมีรายได้จากการร้องเพลงวันละ 170 บาท เมื่อรวมกับค่าพวงมาลัยแล้ว จะมีรายได้ถึงวันละ 350 บาทขึ้นไป แต่ได้ถูกเพื่อน คือ นายพรเทพ ขอให้ช่วยนำของไปส่งให้แก่ลูกค้า
โดยได้ค่าจ้างเพียงครั้งละ 200-300 บาท หลังส่งของเสร็จ เขาก็จะพาไปเลี้ยงอาหารกินเที่ยวกัน ซึ่งมีครั้งนี้ ที่มาส่งไกลถึงนอกพื้นที่ ในจังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้ค่าจ้าง 500 บาท ที่ผ่านมาเพิ่งเริ่มนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าแทนเพื่อนเพียง 3 ครั้งเท่านั้น สำหรับยาบ้าทั้งหมดนั้นไม่ทราบว่า นายพรเทพ ไปรับมาจากผู้ใด แต่ทราบเพียงว่าไปรับมาจากสนามบิน เท่านั้น
ด้าน นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สำหรับทางจังหวัดนั้น จะได้ทำการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ในการปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นด้านการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ตามยุทธศาสตร์ 5 รั้ว ป้องกันยาเสพติด ซึ่งในการล่อซื้อครั้งนี้ ยินดีที่จะให้เงินจากงบ ซีอีโอ ของจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้ามาสนับสนุน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานต่อไปได้
