กาญจนบุรี - สลด! ลูกช้างป่าเพศเมียวัยปีเศษ กินปุ๋ยล้มอนาถกลางดงกล้วย เผยผลการผ่าพิสูจน์ของนายสัตวแพทย์พบสาเหตุที่ช้างป่าเสียชีวิตเนื่องจากมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กเป็นจำนวนมาก คาดว่าน่าจะกินสารพิษจากปุ๋ยเข้าไป
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (19 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีลูกช้างป่า อายุประมาณ 1 ปีเศษ ออกหากินตามบริเวณดงกล้วยของชาวบ้านหมู่ 5 บ้านแม่น้ำน้อย ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และลูกช้างป่าตัวดังกล่าวได้กินปุ๋ยที่ชาวบ้านทิ้งไว้ในดงกล้วยจนเสียชีวิต
หลังจากได้รับแจ้ง ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุพบว่าลูกช้างเพศเมียที่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคได้ทำพิธีทางศาสนาและฝังลูกช้างไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงได้เดินทางไปพบนายยุทธชัย ปัทมสนธิ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง
นายยุทธชัย ปัทมสนธิ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค เปิดเผยว่า ข่าวลือเรื่องลูกช้างป่ากินปุ๋ยจนเสียชีวิตนั้นเป็นเรื่องจริง สาเหตุเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมาโขลงช้างที่มีอยู่ประมาณ 10 ตัวได้ออกไปหาแหล่งอาหารและแหล่งน้ำที่บริเวณบ้านบ้องตี้ และได้ทำลายบ้านเรือนของราษฎรจนได้รับความเสียหาย จากนั้นชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการไล่โขลงช้างไปเพื่อป้องการชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ต่อมาวันที่ 17 พ.ย.โขลงช้างดังกล่าวได้ออกมาหากินที่บริเวณบ้านแม่น้ำน้อย ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นชาวบ้านได้ปลูกพืชไร่ไว้เป็นจำนวนมาก เช่น ไร่มันสำปะหลัง ไร่อ้อย ไร่สับปะรด และไร่กล้วย ซึ่งขณะที่โขลงช้างดังกล่าวกำลังออกหากินที่บริเวณดงกล้วย ซึ่งโขลงช้างป่านั้นมีลูกช้างป่าอยู่ด้วย
จากนั้นลูกช้างป่าซึ่งเป็นช้างเพศเมีย อายุประมาณ 1 ปีเศษ ได้พบกับถุงปุ๋ยและได้คุ้ยเขี่ยกินปุ๋ยเข้าไป จนทำให้ช้างล้มและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งได้มีชาวบ้านหมู่ 5 เข้าไปทำไร่และได้พบลูกช้างป่านอนเสียชีวิตในช่วงเช้าของวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นชาวบ้านจึงได้แจ้งมาที่อุทยานแห่งชาติไทรโยคเข้าไปพิสูจน์
นายยุทธชัยเปิดเผยต่อว่า ต่อมาตนจึงได้ประสานไปที่โรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยมหิดล อ.ไทรโยค เพื่อให้นายสัตวแพทย์มาทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของช้างป่าในครั้งนี้ ซึ่งเบื้องต้นหลังจากการผ่าพิสูจน์นายสัตวแพทย์ได้เปิดเผยว่า สาเหตุที่ช้างป่าเสียชีวิตเนื่องมาจากว่า มีเลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าน่าจะกินสารพิษเข้าไป
ส่วนบริเวณลำตัวนั้นไม่พบว่ามีการถูกทำร้ายแต่อย่างใดและคณะแพทย์ได้ทำการตัดเอาเยื่อในกระเพาะอาหารและลำไส้ไปพิสูจน์เพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตของลูกช้างป่าอีกครั้ง
นายยุทธชัย ปัทมสนธิ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค กล่าวว่า สุดท้ายตนอยากฝากบอกประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร ที่มีการปลูกพืชไร่ที่อยู่บริเวณโดยรอบอุทยาน ให้ช่วยกันระมัดระวังอย่าทิ้งปุ๋ยหรือสารกำจัดแมลงไว้ในไร่อย่างเด็ดขาดเพราะช้างป่าอาจจะกินเข้าไปทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของช้างอีกก็เป็นได้
