xs
xsm
sm
md
lg

ชมฝนดาวตกแปดริ้วคึกคัก - นักดาราศาสตร์สมัครเล่นคืนชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - บรรยากาศชมฝนดาวตกที่แปดริ้วเริ่มกลับคืนชีพคักคักขึ้นมาอีกครั้ง หลังตลอดช่วงที่ผ่านมาซบเซาลงชั่วขณะ ส่วนนักดาราศาสตร์สมัครเล่น และนักถ่ายภาพ ต่างให้ความสนใจแบกกล้องหามุมมืดสงบตั้งขาตั้ง จ้องรอเตรียมกดชัดเตอร์ถ่ายภาพห่าฝนดาวตกในคืนนี้กันอย่างคึกคัก

วันนี้ (18 พ.ย.) เวลา 02.30 น. บรรยากาศการเฝ้ารอชมฝนดาวตกลีโอนิดส์ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา เริ่มมีสีสัน กลับมาคึกคักมากยิ่งขึ้นอีกครั้ง หลังจากช่วงที่ผ่านมาได้เกิดภาวะซบเซาลงไปชั่วขณะ ซึ่งในวันนี้ ต่างมีบรรดาตากล้อง นักถ่ายภาพจำนวนมากต่างพากันหามุมมืดสงบในที่ทึบแสง ตั้งกล้องเรียงแถวเตรียมรอทำการบันทึกภาพปรากฏการณ์ฝนดาวตกที่จะเกิดขึ้นกันอย่างคึกคัก

ขณะที่บรรยากาศของบรรดานักเรียน และผู้สนใจด้านดาราศาสตร์ ที่โรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏิ์ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 100 คน ต่างพากันเฝ้ารอชมปรากฏการณ์ ฝนดาวตกลีโอนิดส์ ประจำปี 2552 กันอย่างใจจดจ่อ พร้อมเตรียมตั้งกล้องเฝ้าคอยบันทึกภาพของการเกิดปรากฏการณ์ไว้เช่นเดียวกัน โดยที่บนดาดฟ้าชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ได้เริ่มมีฝนดาวตกลงมาให้เห็นเป็นลูกแรกสีน้ำเงิน เมื่อเวลา 01.00 น. พุ่งลงมาจากทางด้านทิศตะวันออกเฉียงไปทางทิศใต้ จากนั้นได้มีฝนดาวตกพุ่งลงมาเป็นกลุ่มต่อเนื่องกันอีกถึง 3 ลูก ทั้งสีน้ำเงิน สีเขียว จากบริเวณกลางศีรษะ ลงไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

ล่าสุดจากการจดบันทึกของกลุ่มนักเรียนที่ร่วมกิจกรรม เมื่อเวลา 03.00 น. สามารถจดบันทึกปริมาณฝนดาวตกไว้ได้จำนวน 10 ลูก และยังคงเฝ้ารอลุ้นในช่วงพี๊กสูงสุด คือเวลาประมาณ 04.30 น. ต่อไปอีก ขณะเดียวกัน นักถ่ายภาพทางดาราศาสตร์สมัครเล่นซึ่งยังมีประสบการณ์ในการถ่ายภาพดาราศาสตร์ไม่มากนัก หลายคนยังไม่สามารถทำการบันทึกภาพของฝนดาวตกที่ถือได้ว่าเป็นฝนดาวตกห่าใหญ่ที่สุด และมีปริมาณมากที่สุดได้เลยแม้แต่ภาพเดียว นอกจากนี้ เหนือท้องฟ้าในเขตย่านตัวเมืองฉะเชิงเทรายังมีเมฆบางๆ ลอยเข้ามารบกวนการเฝ้ารอชมฝนดาวตกอยู่ตลอดเวลา

ขณะที่บรรยากาศที่สนามฟุตบอล โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา นายศักดิ์เดช จุมณี ผอ.โรงเรียน ได้นำนักเรียนทั้งจากในโรงเรียน และจากโรงเรียนในพื้นที่ข้างเคียง จำนวนกว่า 200 คน จัดกิจกรรมด้านดาราศาสตร์ เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้พื้นฐานด้านดาราศาสตร์ของนักเรียน ก่อนที่จะแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 14 กลุ่ม เฝ้าสังเกตการณ์ของปรากฏการณ์ด้านดาราศาสตร์ ฝนดาวตกลีโอนิดส์ในครั้งนี้ด้วย เพื่อทำการจดบันทึกนับปรากฏการณ์ และเปรียบเทียบความแตกต่าง และเป็นการฝึกทักษะให้เด็กนักเรียนได้รู้จักสังเกตปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของฝนดาวตก

เพื่อเตรียมการรองรับการก่อตั้งหอดูดาวระดับภูมิภาค ตามโครงการหอดูดาวภูมิภาค 5 แห่ง ทั่วประเทศไทย ของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ไทย ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ที่โรงเรียนวัดวังเย็น ต.วังเย็น อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา และปรากฏการณ์ในครั้งนี้ ถือเป็นการครบรอบ 33.2 ปี ที่โลกจะโคจรเข้ามาอยู่ในตำแหน่งฝ่าสายธารของฝุ่นดาวหาง Tempel-Tuttle ที่มีปริมาณของฝุ่นมากที่สุด


ด้าน นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต นักดาราศาสตร์ท้องถิ่น ซึ่งได้มาบรรยายให้ความรู้แก่เด็กนักเรียน และผู้สนใจ ที่โรงเรียนไผ่แก้ววิทยา กล่าวถึงความสำคัญของฝนดาวตกลีโอนิดส์ในครั้งนี้ว่า ถือเป็นโอกาสดีที่นักเรียนในประเทศไทยจะได้มีโอกาสได้ศึกษา เนื่องจากในปีนี้ฝนดาวตกลีโอนิดส์ จะพี๊กตรงจังหวะที่โลกนั้นหันประเทศไทยเข้าสู่ด้านมืดเข้าหากลุ่มของฝนดาวตกพอดี และเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการนำไปสู่เส้นทางของผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ที่จะมีการก่อตั้งหอดูดาวระดับภูมิภาคขึ้นมา ซึ่งกลุ่มของฝนดาวตกลีโอนิดส์ ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความสวยงามมากที่สุด กว่ากลุ่มของฝนดาวตกอื่นๆ

ด้านวงการดาราศาสตร์บางสำนัก ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะมีปริมาณฝนดาวตกมากถึง 500 ดวงต่อชั่วโมง แต่ถึงขณะนี้ ทางหอดูดาวบัณฑิตยังคงยืนยันการคาดการณ์ฝนดาวตกในครั้งนี้ไว้ก่อนหน้าแล้วว่า จะมีปริมาณฝนดาวตกในช่วงพีกสูงสุด ประมาณ 100-150 ดวงต่อชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งหากจะมีมากถึง 500 ดวง จะต้องเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้แล้ว ขณะที่เมื่อปี พ.ศ.2544 นั้นเคยมีปริมาณสูงสุดถึง 1,000 ดวง ต่อชั่วโมงเลยทีเดียว



กำลังโหลดความคิดเห็น