มุกดาหาร-ทหารพราน 2106 จังหวัดมุกดาหาร ตรวจยึดกัญชาลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ท่าน้ำริมโขง ชุมชนนาโปน้อยภายในเขตเทศบาลเมือง ได้ของกลางจำนวน 500 กิโลกรัม ส่วนผู้ลักลอบขนไหวตัวนั่งเรือกลับประเทศหลบหนีทัน
เมื่อเวลาประมาณ 05.40 น.วันนี้ (16 พ.ย.) ทหารพราน 2106 จากกองกำลังสุรศุกดิ์มนตรี โดยการนำของ พ.อ.ชาญชัย เอนออน รองเสธนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ตรวจยึดกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 500 กิโลกรัม ที่ได้มีผู้ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ท่าน้ำริมโขง ชุมชนนาโปน้อย ภายในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร
ส่วนผู้ลักลอบขนกัญชาดังกล่าวได้ไหวตัวทัน นั่งเรือหลบหนีกลับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่สามารถจับตัวได้ตามเคย
ทั้งนี้ จากการสืบทราบของกองกำลังทหารพราน 2106 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ว่าจะมีการลักลอบขนกัญชามาส่งให้กับผู้ซื้อที่ฝั่งไทย บริเวณท่าเทียบเรือช่องทางธรรมชาติ แม่น้ำโขง ชุมชนนาโปน้อย ภายในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ดักซุ่มสังเกตการณ์ จนกระทั่งเช้ามืด ได้สังเกตเห็นเรือยนต์เล็กหางยาว วิ่งจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาฝั่งไทยใกล้กับกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้าน
ผู้โดยสารที่นั่งมาในเรือ 2 คนได้ช่วยกันขนถุงสีดำลงจากเรือด้วยความเร่งรีบ และเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ทั้ง 2 คนได้ไหวตัวขึ้นเรือลำดังกล่าวหันเรือวิ่งกลับประเทศเพื่อนบ้าน จากการตรวจสอบถุงสีดำทั้งหมด 13 ถุง ภายในมีกระสอบปุ๋ยบรรจุอยู่อีกชั้นหนึ่ง เมื่อแกะออกดูก็ปรากฏว่า เป็นกัญชาแห้งอัดแท่งห่อด้วยพลาสติกอย่างมิดชิดไม่ให้อากาศเข้า รวมจำนวน 500 กิโลกรัม จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดก่อนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.อ.ชาญชัย เอนออน รองเสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี กล่าวว่า จากการจับกุมกัญชาได้จำนวนมากครั้งนี้ ส่วนหนึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ในการแจ้งเบาะแสผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบ เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา และหากได้รับความร่วมมือจากประชาชนโดยเฉพาะหมู่บ้านในการแจ้งเบาะแสผู้มีพฤติกรรมหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง
ทั้งนี้ เชื่อว่าการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนด้านจังหวัดมุกดาหารจะลดลง และก็หมดไปในที่สุด เพราะลำพังเจ้าหน้าที่ฝ่ายเดียว ซึ่งมีจำนวนจำกัดไม่สามารถที่จะดูแลได้อย่างทั่วถึง เนื่องจากพื้นที่ชายแดนจังหวัดมุกดาหาร ติดกับแม่น้ำโขงระยะทางกว่า 72 กิโลเมตร และแต่ละแห่งสามารถเดินทางข้ามไป-มา ระหว่างกันได้สะดวก
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย ตามแนวชายแดนโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบเข้ามามากที่สุด กองกำลังสุรศักดิ์มนตรีได้จัดกำลังทหารพรานเข้ามาร่วมปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากขึ้น หลังจากมีรายงานการเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ซึ่งจากผลงานที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ลักลอบนำเข้ายาเสพได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับกัญชาที่จับกุมได้ครั้งนี้หากรอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่และส่งไปขายยังภาคใต้ได้จะตกราคากิโลกรัมละ 25,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 12 ล้านบาทเศษ