ตราด -ชาวชุมชน “คนรักษ์เกาะช้าง” ยกขบวนแจ้งความดำเนินคดีอดีต จนท.ที่ดินแหลมงอบออกโฉนดมิชอบ พร้อมพวกอีก 3 คน,กำนัน ต.เกาะช้างใต้ด้วย ประกาศเอาที่ดินคืนสร้างอนุสรณ์ทหารเรือ
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ สภ.แหลมงอบ ชาวชุมชน “คนรักษ์เกาะช้าง” นำโดยนายสุธน ขันแข็ง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 3 ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด ในฐานะประธาน ชุมชนคนรักษ์เกาะช้าง พร้อมด้วยสมาชิกจำนวน 50 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ แสงภู่ ผกก.สภ.เมืองตราด เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีอาญากับนายฐธันกรณ์ หรือเสกสรร หรือธนาพันธุ์ คุ้มญาติ กับพวก อดีตเจ้าพนักงานที่ดินส่วนแยกแหลมงอบกับพวก ฐานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบและโดยทุจริต พร้อมมอบเอกสารจำนวนกว่า 100 หน้า เพื่อเป็นหลักฐานด้วย
นายสุธน ขันแข็ง ได้ชี้แจงเหตุผลถึงการเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีให้กับ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ แสงภู่ ว่า นายฐธันกรณ์ หรือ เสกสรร หรือ ธนาพันธ์ คุ้มญาติ เจ้าพนักงานที่ดินหัวหน้าส่วนแยกแหลมงอบ (ในขณะนั้น) นางอัมพร ครุวรรณ์ เจ้าพนักงานที่ดิน สนง.ที่ดินส่วนแยก แหลมงอบ (ในขณะนั้น)
นายจเร อภิบาลศรี นายสมพงษ์ เสริมเสนาบุญ ช่างรังวัด สนง.ที่ดิน ส่วนแยกแหลมงอบ (ในขณะนั้น) นายสมหมาย เครือนุช กำนัน ต.เกาะช้างใต้ และเป็นผู้ได้รับอำนาจจากปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่ง อ.เกาะช้าง กับพวก ได้ร่วมกันออกโฉนดที่ดินเลขที่ 881 หน้าสำรวจ 436 หมู่ที่ 3 (บ้านเจ๊กแบ้) ต.เกาะช้างใต้ อ.เกาะช้าง จ.ตราด โดยมิชอบด้วยกฎหมายและโดยทุจริต ให้กับนายโชคอำนวย สุรโยธี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2547 โดยไม่มีหนังสือแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) ด้วยการนำเอา ส.ค. 1 เลขที่ 66 หมู่ 4 บ้านสลักคอก ต.เกาะช้าง อ.แหลมงอบ จ.ตราด นำมาสวมให้กับนายโชคอำนวย สุรโยธี
แต่ปรากฏว่า นายโชคอำนวย สุรโยธี และ นายสมหมาย เครือนุช ได้ให้การต่อเจ้าพนักงานที่ดิน จ.ตราด ส่วนแยก อ.แหลมงอบ ว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงเขตหมู่บ้านจากหมู่ที่ 4 เป็นหมู่ที่ 3 ซึ่งความจริง แล้วที่ดิน ส.ค.1 ดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 66 ที่ตั้งอยู่คนละหมู่บ้าน และไม่เคยมีประกาศ กระทรวงมหาดไทย เปลี่ยนแปลงเขตหมู่บ้านจากหมู่ที่ 4 (บ้านสลักคอก) เป็นหมู่ที่ 3 (บ้านเจ๊กแบ้) แต่อย่างใด ซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นการกระทำที่ทุจริตต่อหน้าที่ จึงขอให้ผู้กำกับ สภ.แหลมงอบ ได้ดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว
นายสุธน กล่าวว่า นายสมหมาย เครือนุช ได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 66 หมู่ที่ 4 (บ้านสลักคอก) ตำบลเกาะช้าง อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด มีชื่อ นายไฉ วิสานคูน เป็นผู้แจ้งการครอบครองที่ดิน กับ นายทองพูล แสงปิติ เมื่อปี พ.ศ.2541 และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2546 นายสมหมาย เครือนุช ได้ทำสัญญาซื้อขาย ส.ค.1 เลขที่ 66 ดังกล่าว กับ นายโชคอำนวย สุรโยธี โดยระบุข้อความอันเป็นเท็จว่า ส.ค.1 เลขที่ 66 ดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 3 (บ้านเจ๊กแบ้) ตำบลเกาะช้างใต้ กิ่งอำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด เพื่อให้นายโชคอำนวย สุรโยธี นำไปยื่นขอรังวัดออกเป็นโฉนดที่ดินเลขที่ 881 ดังกล่าว
พ.ต.อ.ธนวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องการดำเนินคดีบุคคลทั้ง 4 คน ทางตำรวจจะสอบสวนพยานและนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดส่งไปที่ ปปช.ให้ดำเนินการสอบสวนและตัดสิน แต่ปปช.สามารถส่งเรื่องและมีคำสั่งให้ตำรวจดำเนินการได้ เพราะข้าราชการระดับต่ำกว่าซี 8 ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ตนเองพร้อมที่จะดำเนินการตามขั้นตอนแล้วส่งฟ้องต่ออัยการ จ.ตราด เพื่อดำเนินการสั่งฟ้องต่อศาล จ.ตราด ต่อไป และจะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีการกระทำผิดมานานเกือบ 10 ปี และมีพยานหลักฐานที่ชี้ชัดว่ามีการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งการกระทำของชมรมชุมชนคนรักษ์เกาะช้าง เป็นสิทธิที่กระทำได้หากพบว่ามีการกระทำทุจริต ถือเป็นการปกป้องทรัพยากรของชุมชนจึงเป็นเรื่องที่ดี
จากนั้น ผกก. สภ.แหลมงอบ ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ประศาสตร์ สามารถกุล สว.สอบสวน สอบพยานทั้งหมด และรับมอบเอกสารจำนวน 100 หน้าเพื่อดำเนินการส่ง ผกก.สภ.แหลมงอบ และส่งให้ ปปช.ดำเนินการต่อไป
นายสุธน กล่าวหลังจากให้การกับพนักงานสอบสวนว่า การที่ชาวเกาะช้างต้องรวมตัวกันมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แหลมงอบ ให้ดำเนินคดีอาญากับนายธนาพันธ์ หรือฐธันกรณ์ คุ้มญาติ นางอัมพร ครุวรรณ์ นายสมหมาย เครือนุช นายโชคอำนวย สุรโยธี กับพวก ในวันนี้เพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีหน้าที่โดยตรง ปล่อยปละละเลยมานานหลายปีแล้ว ทำให้องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (อพท.) ไม่สามารถก่อสร้างอนุสรณ์สถานยุทธนาวีเกาะช้าง วงเงินงบประมาณ 200 ล้านบาทในพื้นที่ที่ออกโฉนดที่ดินเลขที่ 881 ได้ ทำความเสียหายแก่การพัฒนาการท่องเที่ยวของเกาะช้างมากมาย
การกระทำของชาวเกาะช้างในครั้งนี้ จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ประชาชนในจังหวัดอื่นได้เจริญรอยตาม กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่หาประโยชน์โดยการโกงที่ดินของรัฐในเกาะช้างมานาน จะได้ถูกกวาดลงทะเลไปเสียที แผ่นดินเกาะช้างจะได้สูงขึ้น การพัฒนาเกาะช้างเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่จะได้เดินหน้าไปได้เสียที