บุรีรัมย์ - ตำรวจภาค 3 สั่งให้ 4 จว.พื้นที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชา ติดตามสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยประชาชนตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด หลังรัฐบาลไทยลดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเขมร พร้อมตั้งด่านสกัดกั้นขบวนการขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน พบจับกุมเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่า 30%
วันนี้ (11 พ.ย.) พล.ต.ต.อำนวย มหาผล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมมอบนโยบายแก่ข้าราชการตำรวจใน จ.บุรีรัมย์ พร้อมย้ำให้ตำรวจภูธรทั้ง 4 จังหวัด ที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดนชายไทย-กัมพูชา ได้ติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวสืบสวนหาข่าวรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน ที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด หากเกิดสถานการณ์รุนแรงบานปลายหลังรัฐบาลไทยได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม จากการรายงานขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนทั้ง 4 จังหวัด ยังเป็นปกติไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้ย้ำให้ทุกพื้นที่ใน 8 จังหวัดที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 คุมเข้มกวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้เสพ และผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ หลังพบยาเสพติดยังมีการแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่น และเยาวชนอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้ทั้ง 8 จังหวัดที่รับผิดชอบ ได้ตั้งจุดตรวจสกัดจับกุมกลุ่มกระบวนการค้ายาเสพติดแล้ว 71 จุดตลอด 24 ชั่วโมง
โดยจากการตั้งจุดตรวจสกัดสามารถจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 30% ส่วนมากลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ส.ป.ป.ลาว และกัมพูชา เนื่องจากในพื้นที่ที่รับผิดชอบไม่มีฐานการผลิต นอกจากนั้นยังได้มีการขยายผลการสืบสวนสอบสวนจับกุม พร้อมยึดทรัพย์ ทั้งผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อยอย่างเด็ดขาด
