ชัยภูมิ- ธ.ก.ส.ชัยภูมิร่วมหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งออกหน่วยตั้งจุดทำสัญญากับเกษตรกรเพื่อรับผลประโยชน์ประกันรายได้โครงการประกันราคาข้าวเปลือกนาปี 52/53 เผย ชาวนาชัยภูมิแห่ที่ขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 130,000 ราย สูงกว่าโครงการรับจำนำปีที่แล้วเป็นจำนวนมาก ตั้งเป้าออกหน่วยบริการทำสัญญากับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้ทั้งจังหวัดฯแล้วเสร็จปลายเดือนนี้
วันนี้ (10 พ.ย.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดชัยภูมิ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานเกษตรจังหวัด, พาณิชย์จังหวัดชัยภูมิ นำเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ออกตั้งหน่วยให้ความรู้ และทำสัญญากับเกษตรกร ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการประกันราคาข้าวเปลือกนาปี 2552/53 ที่วัดอุดร บ.หนองคอนไทย ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งในพื้นที่ ต.กุดตุ้ม มีเกษตรกรที่จะทำสัญญาประกันรายได้โครงการประกันราคาข้าวเปลือกกว่า 700 ราย
นายขจรเกียรติ บัวศรี ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.จังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ในปีนี้มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและต้องทำสัญญารับผลประโยชน์จากโครงการในพื้นที่ จ.ชัยภูมิกว่า 130,000 ราย ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำผลิตผลปีที่แล้วที่มีเพียง 20,000 กว่าราย เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก นับว่าโครงการประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล ประชาชนให้ความสนใจ และประโยชน์ที่ได้รับนั้นถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ หลังทำสัญญาแล้ว เกษตรกรสามารถใช้สิทธิ์ ขอรับเงินส่วนต่างจากธนาคารได้ หรือจะเก็บไว้รอขายเมื่อราคาข้าวสูงขึ้นกว่าราคาประกันก็ได้ หากราคาข้าวเปลือกอ้างอิงในแต่ละช่วงต่ำกว่าราคารับประกัน รัฐบาลจะชดเชยเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เข้าร่วมโครงการฯ ทุกคน โดยโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรทันที ซึ่งทาง ธ.ก.ส.ชัยภูมิ ตั้งเป้าหมายออกให้บริการทั้งจังหวัดชัยภูมิ ให้เสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้
ส่วนที่มีผู้เป็นห่วงว่าจะมีผู้ประกอบการโรงสีข้าวรวมหัวกันกดราคารับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร นั้น ทางรัฐบาลได้มีแผนรองรับไว้แล้ว โดยให้สหกรณ์เพื่อการเกษตรตามพื้นที่ต่างๆ จะจัดเจ้าหน้าที่ออกรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรโดยตรงในราคาอ้างอิงของทุกช่วง 15 วัน และ ธ.ก.ส.พร้อมที่จะปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับสหกรณ์การเกษตรทุกแห่ง และผู้ประกอบการโรงสีข้าวในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อที่จะนำเงินไปซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในราคาอ้างอิงของแต่ละช่วง
“จะทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้รับผลประโยชน์อย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ และไม่สามารถสวมสิทธิได้” นายขจรเกียรติ กล่าว ในตอนท้าย
