ฉะเชิงเทรา - มึนม็อบหนุนมติ มส.พิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรรูปใหม่ เผยพุทธศาสนิกชนถูกจูงร่วมขบวนมาชุมนุมโดยไม่รู้ตัว ขณะบางรายให้สัมภาษณ์สื่อตรงข้ามกับป้ายที่ถือสนับสนุน มส.พร้อมเห็นควรแต่งตั้งเจ้าอาวาสจากพระในวัดเพื่อสานต่องาน ขณะที่แม่ค้าเมืองสิงห์แฉถูกทางเทศบาลหลอกมาทำบุญ ส่วนบรรยากาศที่พุทธมณฑล เริ่มมีประชาชนฝ่ายหนุนจากสิงห์บุรีเดินทางมาถึงก่อนเป็นชุดแรก 7 คันรถบัส
วันนี้ (10 พ.ย.) เวลา 10.30 น.ที่บริเวณสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑล จ.นครปฐม บรรยากาศในช่วงเช้าได้มีประชาชนจาก จ.สิงห์บุรี เดินทางมาด้วยรถบัส จำนวน 7 คัน ซึ่งเป็นกลุ่มของฝ่ายสนับสนุน ให้มหาเถรสมาคม พิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ให้เห็นชอบแต่งตั้งพระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเจ้าอาวาส ตามที่เจ้าคณะจังหวัดฉะเชิงเทราเสนอให้ได้รับการพิจารณา ได้เดินทางมาถึงเป็นขบวนแรกเมื่อเวลา 09.30 น.
ขณะที่บริเวณด้านหน้าของตัวอาคารพุทธมณฑล ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ อส. ประมาณกว่า 2 กองร้อยได้เดินทางมาตั้งแถวจัดกำลังเตรียมความพร้อมอยู่ด้านข้างของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งได้มีการเตรียมการจัดพื้นที่ให้ฝ่ายสนับสนุนไปชุมนุมรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณด้านขวา ฝั่งประตูทางออกของตัวอาคาร (เมื่อยืนในลักษณะหันหน้าออก) และจะมีแถวของกำลังเจ้าหน้าที่กั้นอยู่ระหว่างตรงกลาง ส่วนผู้ชุมนุมฝ่ายคัดค้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯนั้น จะถูกจัดให้อยู่ทางด้านซ้ายของตัวอาคาร ด้านประตูทางเข้า แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่ายดัดค้านเดินทางมาถึงยังพุทธมณฑลเลย แม้แต่คณะเดียว
พุทธศาสนิกชนเมืองสิงห์แฉถูกหลอกให้มา
นายไสว ทีคำ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม.1 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ผู้ที่นั่งถือป้ายสนับสนุน มส.ให้พิจารณาแต่งตั้งพระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอบางปะกง เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ แต่กลับเปิดเผยว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อต้องการที่จะสนับสนุน มส.ให้พิจารณาแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ จากคนในวัด ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสเพื่อที่จะสามารถปกครองคณะสงฆ์ในวัดได้ง่ายกว่าพระนอกวัด เพราะรู้เรื่องภายในวัดได้ดีทั้งหมดและเป็นการป้องกันบุคคลจากภายนอกเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์จากทางวัดออกไป
“ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว เมื่อเจ้าอาวาสรูปเดิมมรณภาพไปก็จะต้องแต่งตั้งผู้ที่เป็นรอง หรือผู้ช่วยขึ้นเป็นเจ้าอาวาสทำหน้าที่แทน ไม่ใช่ไปเอาพระจากที่อื่น มาขึ้นเป็นเจ้าอาวาสที่ผ่านมาเคยเดินทางไปทำบุญที่วัดนี้บ่อยครั้ง ก็พอรู้เรื่องของทางวัดอยู่บ้าง แต่ในเชิงลึกนั้นไม่รู้เลย” นายไสวกล่าว
เช่นเดียวกับ นางสำรวย เอี่ยมสม อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/2 ม.6 ต.โพสังโฆ อ.ค่ายบางระจันทร์ จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า การเดินทางมาในวันนี้ตั้งใจว่าจะมาทำบุญ จึงได้เตรียมแลกสตางค์ปลีกไว้เป็นจำนวนมาก เพราะทางเทศบาลตำบลโพสังโฆ บอกเพียงจะพามาเที่ยวทำบุญไหว้พระ เพราะปกติแล้วตนเป็นแม่ค้าขายของอยู่ที่วัดพระนอน จึงไม่ค่อยได้มีโอกาสมาเที่ยวมากนักและไม่รู้เรื่องเลยว่าทางเทศบาลพามาที่นี่ทำไม โดยเดินทางมาพร้อมกันกับคนในเทศบาลตำบลโพสังโฆ ด้วยรถบัส 2 คันและมาสมทบรวมกับเทศบาลอื่นๆ อีก 5 คัน ในสาย นอกจากนี้ยังจะมีอีกหลายเทศบาลตามมาอีก
นางสำรวยกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาก็เคยได้ยินข่าวมีปัญหาเกิดขึ้นที่วัดโสธรอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิด และไม่รู้รายละเอียดถึงต้นสายปลายเหตุที่แท้จริงว่ามีความเป็นมาของปัญหาอย่างไร เพียงแต่เขาพามาก็มา เพราะอยากมาเที่ยวมากกว่า ขณะที่ชาวบ้านที่นั่งอยู่ด้วยในกลุ่มเดียวกันกล่าวว่า ที่มาเที่ยวในครั้งนี้เพราะที่บ้านไม่มีอะไรจะทำ เนื่องจากนาข้าวถูกเพลี้ยกระโดดลงจนเกิดความเสียหายหมด จึงว่างไม่มีอะไรจะทำ
นายกฤษฎา เทศนา อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.2 ต.โพสังโฆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป็นแกนนำของการเดินทางมาในครั้งนี้กล่าวว่า ได้เตรียมนำพาชาวบ้านมาสนับสนุนให้ มส. แต่งตั้งพระพิพิธกิจจาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอบางปะกง เป็นเจ้าอาวาสวัดโสธรกว่า 4 พันคน เนื่องจากตนได้ตรวจสอบเช็คประวัติพระรูปนี้แล้วว่าเป็นพระดี มีเงินอยู่แล้วและอายุมาก จึงไม่น่าจะมากอบโกยเอาผลประโยชน์ใส่ตน จากวัดโสธรฯ
มส.เชื่อม็อบค้านเจ้าอาวาสวัดโสธรไม่รุนแรง
ด้าน ดร.อำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสามาคม เปิดเผยถึงกรณีพระจากวัดโสธรฯจะเดินทางมายื่นหนังสือต่อมหาเถรสมาคม คัดค้านการแต่งตั้งเจ้าอาวาสจากคนนอก ว่า คงมาอย่างสงบ ไม่มีการทำเดือดร้อน ซึ่งมหาเถรสมาคมก็จะส่งผู้แทนไปรับหนังสือและนำเสนอเรียนไปตามลำดับชั้นของผู้บริหารต่อไป
“เชื่อว่าไม่ใช่ความวุ่นวายอะไร ส่วนเนื้อหาของจดหมายที่ระบุว่าหนังสือเรื่องการคัดค้านแต่งตั้งเจ้าอาวาสคนนอกนั้น หากมหาเถรสมาคมมีมติเอาคนนอกก็ต้องยึดถือตามนั้น แต่การคัดค้านเราไปห้ามความรู้ความคิดเห็นไม่ได้ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าก่อนมหาเถรสมาคมจะพิจารณาก็คงดูอย่างรอบคอบ มีคุณวุฒิ มีความรู้ มีข้อวินิจฉัยที่สมเหตุสมผลแล้ว”
พระ-เณรวัดโสธร 200 รูปบุกศาลากลางจังหวัด
ส่วนความเคลื่อนไหวของพระสงฆ์ และสามเณรวัดโสธรวรารามวรวิหาร กว่า 200 รูป ได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังนายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเดินทางไปที่วัดโสธรฯ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา และขอร้องไม่ให้พระสงฆ์หรือฆราวาส เดินทางไปยังพุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อรับฟังผลการประชุมพิจาณาของกรรรมการมหาเถรสมาคมเรื่องการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ที่จะมีขึ้นในวันนี้
ต่อมา นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ไปพบกับกลุ่มพระสงฆ์และสามเณร ซึ่งนั่งวิปัสสนาหน้าศาลากลาง พร้อมชี้แจงเหตุผลและความตั้งใจของผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อการขอร้องดังกล่วา ซึ่งเป็นความห่วงใยเกรงว่า การไปกันจำนวนมากโดยเฉพาะฆราวาสจะไปสร้างความกังวลหรือความวุ่นวายของกรรมการมหาเถรสมาคม มิได้เป็นการสั่งห้ามหรือสกัดกั้นการเดินทางไปแต่อย่างใด ซึ่งพระสงฆ์-สามเณรได้เข้าใจและพากันเดินทางกลับวัดในเวลาต่อมา