ตราด - ตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านหาดเล็กคึกคัก พ่อค้า-แม่ค้ากัมพูชา 500 คน ซื้อสินค้าในไทย ขณะนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา ยังคงเดินทางเข้า-ออกปกติ ชี้สถานการณ์ค้าขายไม่น่าเป็นห่วง ส่วนพ่อค้าไทยชี้สัญญาณไม่ดี หากรบ.ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีข้อตกลงชัดเจน, หวั่นซ้ำรอยเผาสถานฑูต
ตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ (6 พ.ย.) ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และตลาดค้าชายแดนหาดเล็ก ปรากฎว่ามีพ่อค้า-แม่ค้าคนไทยเดินทางมาตั้งร้านค้าและนำสินค้ามารอพ่อค้าแม่ค้าจาก จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา เดินทางเข้ามาในช่วงเวลา 07.00 น.ซึ่งก่อนเวลาเปิดด่านในเวลา 07.00 น.มีพ่อค้าแม่ค้าของ จ.เกาะกงกว่า 500 คน เดินทางมารอเวลาเปิดด่านชายแดนเพื่อซื้อสินค้าในตลาดหาดเล็ก และมีนักท่องเที่ยวไทยจำนวนกว่า 100 คน มาติดต่อที่ตม.คลองใหญ่เพื่อเดินทางเข้าไปยังกัมพูชา ในเวลา 07.00 น. เช่นกัน อย่างไรก็ตาม จำนวนพ่อค้า-แม่ค้า และนักท่องเที่ยวไทยมีจำนวนลดลงไม่ตกเหมือนปกติ
นายประจวบ ประคนธรรม์ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรคลองใหญ่ที่เดินทางมาดูแลสถานการณ์ในพื้นที่กล่าวว่า จำนวนชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามายังตลาดชายแดนบ้านหาดเล็กวันนี้ ยังไม่คึกคักเหมือนทุกวัน น่าจะมีปัญหาจากความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ แต่ก็ใช่ว่าจะมีปัญหามากเนื่องจากประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ยังคงเดินทางไปมาหาสู่กันตลอดเวลา หรือแม้แต่จะเคยเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงกว่านี้ระหว่าง 2 ประเทศ พื้นที่ของ จ.ตราด ก็ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ขณะที่เรือประมงขนาดเล็กของชาวกัมพูชาที่นำปลาทะเลมาขายในตลาดหาดเล็กก็ยังคงเดินทางมาเป็นปกติ แสดงให้เห็นว่า ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรและตม.เกาะกง ยังทำนห้าที่ตามปกติ เหมือนของ จ.ตราด
ขณะที่ นายขจรพล บุญเต่า พ่อค้าผลไม้ชายแดนรายใหญ่ ของ จ.ตราด กล่าวว่า สถานการความขัดแย้งของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ มีผลกระทบมาตั้งแต่ความขัดแย้งในเรื่องเขาพระวิหารแล้ว ทำให้สินค้าของ จ.ตราด เช่น ผลไม้,ผักสด ที่พ่อค้ากัมพูชาส่งไปวันละ 5-6 ล้านบาทจะมีความเสี่ยงสูงในการที่จะชำระเงิน ที่ผ่านมาเคยเกิดปัญหาเช่นนี้มาแล้ว เมื่อสถานการณ์ยุติกว่าจะเจราจาเรื่องเงินได้ก็ต้องเสียเวลานาน แต่เมื่อสถานการณ์ทั้ง 2 ประเทศเป็นเช่นนี้ คงจะมีปัญหาในระยะยาวแน่นอน การค้าชายแดนด้านหาดเล็ก ที่เคยมีรถคอนเทรนเนอร์วันละ 5-10 คัน (20 ตู้) ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่คน เพราะมีความขัดแย้งมาตั้งแต่เรื่องเขาวิหารปัจจุบันยังไม่หยุด และยังมีปัญหาเรื่องการเรียกฑูตทั้ง 2 ประเทศ กลับอีกจึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง ว่ามูลค่าการค้าไทย-กัมพูชา ที่เติบโตจากการขนส่งทางรถจะได้รับผลกระทบมาก
“ผมอยากให้ทั้งสองประเทศได้ยุติปัญหาโดยเร็วเพราะในระยะสั้นการสั่งสินค้าก็เริ่ทกระทบแล้ว แต่ในระยะยาวจะกระทบมาก และอาจจะต้องสูญเสียรายได้จากการค้าขายเป็น 1,000 ล้านบาทในอนาคต ปัจจุบัน พ่อค้า จ.เกาะกง สั่งซื้อผลไม้ของ จ.ตราดมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท/ปี หากปัญหายังไม่ยุติตลาดการค้าชายแดนจะได้รับผลกระทบแน่นอน รัฐบาลไทยควรจะคำนึงถึงในเรื่องนี้ด้วย”
ขณะที่ น.ส.จันโท ชาว จ.กัมโปงโสม ประเทศกัมพูชา ที่เป็นผู้รับซื้อผลไม้จากตลาดหาดเล็ก กล่าวว่า เดินทางมาซื้อสินค้าและผลไม้จากตลาดหาดเล็กเกือบจะทุกวัน ทราบข่าวจากสื่อมวลชนในกัมโปงโสมว่ารัฐบาลได้สั่งให้ฑูตไทยเดินทางกลับ แต่ข่าวสารนี้ไม่ได้เผยแพร่ ไปยังประชาชนส่วนใหญ่บางคนไม่รู้เรื่อง และมั่นใจว่า ปัญหานี้จะไม่ทำให้ชาวกัมพูชาและชาวไทยต้องมาขัดแย้งกัน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของรัฐบาล
นอกจากนี้ ที่ท่าเรือประมงบ้านหาดเล็กยังมีชาวประมงของ จ.เกาะกง นำเรือประมงขนาดเล็กเข้ามาที่ท่าเรือและนำปลาทะเลมาขายเป็นปกติเหมือนทุกวันวันละ 20-30 ลำ ดดยที่เหตุการณ์ความขัดแย้งทั้ง 2 ประเทศไม่ได้สร้างผลกระทบแต่อย่างใด
ทางด้าน น.อ.ปริญญาธรรม พูลพิทักษ์ธรรม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จงตราด ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ ทางฝ่ายทหารไทยไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับกับสถานกาณณ์ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ อย่างไรก็ตารม ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด ได้เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยฯกำลังในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ตราด และ จ.จันทบุรี เพื่อประเมินสถานการณ์และรับนโยบายในการปฏิบัติงานในสถานการณ์ขัดแย้ง แต่ไม่น่าจะมีเหตุการณ์ใดๆ ที่น่าเป็นห่วง
ขณะที่ นายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ได้เรียกประชุมส่วนราชการชายแดนและภาคเอกชน ทั้งหอการค้าตราด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด เพื่อประเมินสถานการณ์และหารือถึง ปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้ รวมทั้งการจัดงานแสดงสินค้าใน จ.เกาะกงปี 2553 (มกราคม 2553) ที่ จ.เกาะกง เชิญภาคเอกชน จ.ตราดร่วมแสดงสินค้าเนื่องในวันชาติกัมพูชา ซึ่ง จ.เกาะกงให้ จ.ตราดจำนวน 400 บูท และอาจจะทำให้ไม่สามารถจัดงานในครั้งนี้ได้ หากความขัดแย้งยังไม่สามารถเจรจาได้ข้อยุติ
