สุรินทร์ - ศูนย์คชศึกษาและควาญช้าง หมู่บ้านช้างสุรินทร์ โต้ “ฝรั่ง” ยันปัจจุบันไม่มีการนำช้างพังมาให้ข่มขืนใจผสมพันธุ์กับช้างพลาย แต่ยอมรับเคยเกิดขึ้นในอดีตกว่า 10 ปีก่อน เหตุเจ้าของอยากได้ลูกช้างเพื่อสืบสายพันธุ์ ชี้ ปัจจุบันช้างอยู่ร่วมกันจำนวนมาก ผสมพันธุ์กันตามธรรมชาติได้ตลอดเวลา ไม่มีปัญหาเรื่องสืบสายพันธุ์ ด้านควาญช้าง เผย รู้จักฝรั่งคนเขียนหนังสือเป็นอย่างดี เชื่อนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่
วันนี้ (3 พ.ย.) นายกฤตพล ศาลางาม ผู้จัดการศูนย์คชศึกษา บ.ตากลาง “หมู่บ้านช้าง” ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวถึงกรณีที่นักขียนชาวต่างชาติ ได้หยิบยกประเด็นการนำช้างพัง หรือช้างเพศเมียมาบังคับให้ช้างพลายหรือช้างตัวผู้ข่มขืนใจผสมพันธุ์ให้ตั้งท้อง เพื่อนำลูกช้างไปขายในราคาตัวละ 5 หมื่นบาท ว่า เรื่องลักษณะนี้ในหมู่บ้านช้างสุรินทร์เคยมีเกิดขึ้นในอดีตเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว กรณีที่ควาญช้างเลี้ยงช้างแล้วอยากได้ลูกช้างไว้ในการสืบต่อสายพันธุ์ ซึ่งไม่ใช่เพื่อนำลูกช้างไปขายเอาเงิน แต่ปัจจุบันปัญหานี้หมดไปแล้ว ทางศูนย์คชศึกษาก็ไม่พบเห็นการกระทำดังกล่าวอีกเลย
ทั้งนี้ ในปัจจุบันช่วง 10 ปีมาจนถึงขณะนี้ ไม่มีการนำช้างมาบังคับขืนใจให้ผสมพันธุ์กันอีก เพราะในหมู่บ้านช้างและศูนย์คชศึกษา มีช้างอาศัยร่วมกันอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อช้างรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก ก็จะผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติ ซึ่งเมื่อนำช้างพังและช้างพลาย มาอยู่ใกล้กัน เขารักใคร่กันก็ผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติได้ตลอดเวลา จึงไม่มีปัญหาการสืบต่อสายพันธุ์แต่อย่างใด
นายทองสุข มะลิงาม ควาญช้าง ประจำศูนย์คชศึกษา ซึ่งทำหน้าที่ดูแลช้างนับ 10 เชือก เปิดเผยว่า ตนเคยดูแลช้างในการผสมพันธุ์กันมานับสิบเชือก ไม่เคยมีการบังคับข่มขืนใจช้างเพศเมีย ตามที่เป็นข่าว แต่ยอมรับว่า กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ที่หมู่บ้านช้าง มีควาญช้างบางคนทำอย่างนั้น เพราะอยากได้ลูกช้าง ประกอบกับเกรงว่าช้างจะไม่ผสมพันธุ์ แต่ปัจจุบันเรื่องอย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว
ทุกวันนี้ช้างผสมพันธุ์กันเอง เพราะช้างมีเป็นจำนวนมาก ช้างมีความรักความผูกพันกันเหมือนคนเราไม่รักกัน ไม่ชอบกันก็จะไม่ผสมพันธุ์กัน แต่หากรักกันก็จะเข้าหากัน ใช้งวง ล้วงจับกันไปมา แล้วก็ผสมพันธุ์กัน
“ขอยืนยันว่า เหตุการณ์อย่างที่ชาวต่างชาตินำไปพูด หรือเขียนในหนังสือตามที่เป็นข่าวนั้นไม่มีอีกแล้ว ซึ่งช้างที่ศูนย์คชศึกษาในปีหน้านี้ช้างมีครบกำหนดจะตกลูกมากถึง 4-5 เชือก ล้วนผสมพันธุ์กันเองตามธรรมชาติทั้งนั้น เพราะช้างมาอยู่ด้วยกันมากการผสมพันธุ์ทำได้ตลอดเวลา เขาไม่อาย ไม่เลือกสถานที่” นายทองสุข กล่าว
นายทองสุข กล่าวอีกว่า ชาวต่างชาติที่เขียนถึงการทรมานช้างเพศเมีย โดยให้ช้างเพศผู้ ช้างพลายข่มขืนนั้น ตนรู้จักชาวต่างชาติคนนี้ดี เคยทำเป็นเข้ามาศึกษาวิถีชีวิตช้างและควาญช้างที่ศูนย์คชศึกษา อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์แห่งนี้ และรู้สึกว่าเขาจะเป็นคนรักช้างมาก อยากดูแลช้าง เขาจึงซื้อช้างตนไป 1 เชือก เอาไปเลี้ยงอยู่ที่อุทยานน้ำลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
“การที่เขาเขียนเรื่องนี้ เข้าใจว่า เขาอาจเคยเห็นมานานแล้วในอดีต แต่ปัจจุบันเรื่องทรมานช้างไม่มีใครเขาทำในลักษณะอย่างนี้” นายทองสุข กล่าวในตอนท้าย
