แพร่ - ชาวบ้านสะเอียบ อัดกรรมาธิการภัยพิบัติ วุฒิสภา หลอกชาวบ้านนั่งประชุมครึ่งวัน แอบไปสรุปกันที่กรุงเทพฯ แถมเตรียมถวายรายงานหนุนเขื่อนแก่งเสือเต้น ให้ในหลวง ชี้ เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทพระองค์ท่าน
นายประสิทธิพร กาฬอ่อนศรี ผู้ประสานงานโครงการการจัดการลุ่มน้ำยมอย่างยั่งยืน แจ้งว่า วันนี้ (1 พ.ย.) ชาวบ้านสะเอียบ พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ได้ประชุมกันที่ศาลาวัดดอนชัย บ้านดอนชัย ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ทำหนังสือแย้งความเห็นของกรรมาธิการวิสามัญศึกษามาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหาพื้นที่การเกษตรและชุมชนผู้ประสบภัยธรรมชาติ วุฒิสภา และเรียกร้องให้ประธานวุฒิสภาตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางตรวจสอบพฤติกรรมของกรรมาธิการชุดนี้ด้วย
เนื่องจากคณะกรรมาธิการได้ลงพื้นที่รับฟังความเห็นชาวบ้าน กรณีภัยธรรมชาติ ในวันที่ 20 สิงหาคม 2552 เวลาประมาณ 12.00-15.00 น.ที่วัดบ้านดอนชัย ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ซึ่งชาวบ้านได้ให้เหตุผลถึงการไม่เห็นด้วยกับโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ทั้งเรื่องผลกระทบกับป่าสักทองอย่างมหาศาล โครงการขาดความคุ้มทุนตามรายงานการศึกษาของ TDRI ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน อีกทั้งเขื่อนยังตั้งอยู่บนรอยเลื่อนของเปลือกโลก เสี่ยงต่อเขื่อนแตกหากเกิดแผ่นดินไหว
แต่กรรมาธิการกลับไม่นำเหตุผลการคัดค้านของชาวบ้านไประบุในข้อสรุปของกรรมาธิการ ทั้งมีความเห็นโน้มเอียงไปในทางสนับสนุนเขื่อนแก่งเสือเต้น จนทำให้ชาวบ้านสะเอียบ ลุกออกจากที่ประชุมเพื่อเป็นการประท้วงมาแล้ว
และในวันที่ 2 ตุลาคม 2552 ที่ผ่ามา คณะกรรมาธิการได้จัดประชุมสรุปความเห็นที่รัฐสภา และได้ข้อสรุปว่าจะนำโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นถวายรายงานต่อในหลวง ทั้งที่ชาวบ้าน นักวิชาการ นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมร่วมกันคัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นนี้มากว่า 20 ปี
กำนันเส็ง ขวัญยืน กำนัน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ เห็นว่า ความพยายามในการผลักดันเขื่อนแก่งเสือเต้นมีมาทุกยุคทุกสมัย แต่ครั้งนี้จะไปกันใหญ่ กรรมาธิการภัยพิบัติคุยกับชาวบ้านครึ่งวันแล้วแอบไปสรุปกันที่กรุงเทพฯว่าจะถวายรายงานให้ในหลวง ผลักดันให้เขื่อนแก่งเสือเต้นเป็นโครงการพระราชดำริ
“ผมไม่เห็นด้วย ชาวบ้านก็ไม่เห็นด้วย ที่กรรมาธิการภัยพิบัติ จะนำโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นถวายรายงานให้ในหลวงเพื่อผลักดันให้เป็นโครงการพระราชำริ ซึ่งถือเป็นการดึงฟ้าลงมาต่ำ เป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง ในที่ประชุมชาวบ้านแสดงการคัดค้านด้วยเหตุด้วยผล แต่กรรมาธิการกลับไปสรุปว่าชาวบ้านยอมรับโครงการนี้ ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง” กำนันเส็ง กล่าว
นายอุดม ศรีคำภา ประธานกลุ่มราษฎรรักษ์ป่า ซึ่งทำหน้าที่ในการปกป้องรักษาป่าสักทองมายาวนานกว่า 20 ปี เห็นว่า กรรมาธิการภัยพิบัติ วุฒิสภา ไม่มีหน้าที่อันใดในการถวายความเห็นในเรื่องโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น หากจะเสนอความเห็นให้รัฐบาลก็ว่าไป ซึ่งควรใส่ความเห็นของชาวบ้านฝ่ายคัดค้านโครงการเข้าไปด้วย ไม่ใช่สรุปว่าทุกฝ่ายเห็นด้วย ที่สำคัญไม่ควรไปรบกวนในหลวงในเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ เขื่อนแก่งเสือเต้นเป็นเผือกร้อนที่ไม่ควรโยนไปให้ในหลวง
“เราจะได้ทำหนังสือทักท้วงไปยังประธานวุฒิสภา ให้ตรวจสอบพฤติกรรม ผลประโยชน์ทับซ้อนของคณะกรรมาธิการชุดนี้ด้วย” นายอุดม กล่าว
นายภานรินทร์ ธรรมโม ตัวแทนกลุ่มเยาวชนตะกอนยม ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ตำบลสะเอียบ เห็นว่า อยากจะวิงวอนให้ผู้ใหญ่มีเหตุผลบ้าง เมื่อทุกฝ่ายเห็นแล้วว่าไม่ควรสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ก็ไม่ควรดึงดัน ควรหาวิธีการอื่นๆ ในการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วมจะดีกว่า และไม่ควรอย่างยิ่งที่จะถวายเรื่องนี้ไปให้ในหลวงตัดสิน เพราะพระองค์ก็เคยตรัสไว้แล้วว่า โครงการพระราชดำริต้องไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน ขณะที่โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นนี้ต้องอพยพพวกผม ญาติพี่น้องกว่าพันครอบครัว รวมแล้วจะมีคนเดือดร้อนไม่ต่ำกว่า 5,000 คน เช่นนี้แล้วในหลวงท่านคงไม่เห็นด้วยแน่