xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐินีตกยากเมืองพิจิตรวอนสังคมช่วย-เผยเคยรับเลี้ยงเด็กกำพร้าถึง 8 คน-วันนี้ธุรกิจล้มหมดตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิจิตร – อดีตเศรษฐินีตกยาก วอนสังคมช่วย เผย ยุครุ่งเรืองรับอุปการะลูกกำพร้าที่แม่ใจแตกจะทำแท้งมาชุบเลี้ยง 8 ชีวิต สุดท้ายตัวเองล้มป่วย กิจการล่มสลาย-ครอบครัวแตกแยก สามีแอบขายบ้าน-ฟ้องหย่าขับไล่ ลูกในไส้ต้องออกโรงเรียนกลางคัน

รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร แจ้งว่า ขณะนี้ในแวดวงสังคมของเมืองชาละวัน กำลังพูดกันหนาหูถึงเรื่องราว นางชญาณ์พิมพ์ ชินปิติวงศ์ หรือ “แม่เพ็ญ” อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169/12 หมู่4 ต.โพธิ์ไทรงาม อ.บึงนาราง จ.พิจิตร เจ้าของกิจการร้านสิริทรัพย์ ดำเนินธุรกิจอู่ต่อรถเกี่ยวข้าว ที่ในอดีตมีหลักทรัพย์รวมเกือบ 30 ล้านบาท มีรายได้ปีละ 13 ล้านบาท เป็นอย่างต่ำ มีคนงานและเด็กทำงานบ้านเกือบ 30 คน มีรายรับเงินหมุนเวียนวันละเกือบ 2 แสนบาท จัดได้ว่าเป็นเศรษฐินีในตำบลที่คนทั้งหมู่บ้านได้อาศัยพึ่งพา รวมถึงญาติๆ พี่น้องของตัวเอง อีก 11 ชีวิต และหลานๆ นับสิบคน

โดย นางชญาณ์พิมพ์ ที่ยึดต้นแบบจาก “พ่อของแผ่นดิน” รับอุปการะเด็กกำพร้าไว้มากถึง 8 คน ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ซึ่งมีทั้งเด็กทารกที่นักเรียนในหมู่บ้านใจแตกตั้งท้องจะทำแท้ง หรือครอบครัวที่มีปัญหาถูกกดขี่ทางเพศ ฯลฯ จนคนแถบนั้นรู้กันทั่วว่า ถ้าตั้งท้องแล้วจะทิ้งลูก หรือไม่มีเงินทำคลอด ถ้ามาหา นางชญาณ์พิมพ์ หรือ “แม่เพ็ญ” ก็จะได้รับการช่วยเหลือไม่ผิดหวัง จนทุกวันนี้มีเด็กกำพร้าจากแม่ใจร้ายที่คลอดออกมาแล้วพิการ, ปัญญาอ่อน และ สุขภาพไม่แข็งแรงสมบรูณ์ อยู่ในความดูแลถึง 8 คน

นางชญาณ์พิมพ์ เล่าว่า ลูกบุญธรรมคนแรกชื่อ น้องอร ในคราวนั้นเกิดฝัน 3 คืนติดต่อกัน ว่า เห็นเด็กคนนี้ถูกทอดทิ้งอยู่หลังห้างโลตัส มหาชัย จ.สมุทรสาคร เมื่อตื่นขึ้นมาก็เดินทางไปยังจุดที่ตนเองฝันแล้วก็พบ “น้องอร” เพิ่งแรกเกิดถูกทิ้งไว้ในบ้านร้าง จึงเก็บมาเลี้ยง ขณะนี้เรียนอยู่ ป.3

ลูกบุญธรรมคนที่ 2 ชื่อ ด.ช.น้อย รับมาเลี้ยงตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากแม่เด็กจะไปทำแท้งแล้ว แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายคลอดลูกทิ้งไว้ที่ รพ.แม่และเด็ก จ.นครสวรรค์ เกิดมาพิการตาขวาบอดตาซ้ายสายตาสั้น 1,800 ถึงทุกวันนี้ยังไม่มีเงินจะซื้อแว่นตาให้ลูก แต่ก็ส่งเรียนจนขณะนี้อายุ 7 ขวบ อยู่ชั้นอนุบาล 3

ลูกบุญธรรมคนที่ 3 ชื่อ ด.ช.สืบศักดิ์ รับมาเลี้ยงตั้งแต่ ปี 2546 ตั้งแต่แรกเกิดเช่นกัน เนื่องจากแม่เป็นสาวใจแตก แต่เพื่อนของเธอ จะรับเป็นลูกบุญธรรม หากเป็นลูกสาว แต่เด็กคลอดออกมาเป็นเพศชาย เธอจึงได้ลูกบุญธรรมคนที่ 3 มาอีก ปัจจุบัน อายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1

ลูกบุญธรรมคนที่ 4 ชื่อ ด.ช.สดใส ปัจจุบันอายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 โดยเมื่อต้นปี 2547 ที่หน้าบ้านของเธอ มีคนเอา ด.ช.สดใส ห่อผ้ามาวางทิ้งไว้ใต้ต้นโพธิ์หน้าบ้าน เธอจึงรับเลี้ยงเรื่อยมา

ลูกบุญธรรมคนที่ 5 ชื่อ ด.ช.โมเสก ปัจจุบันอายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 อุปการะมาตั้งแต่ปี 2547 เหตุแม่ของ ด.ช.โมเสก ได้เสียกับคนในครอบครัว พยายามทำแท้ง 4 ครั้ง แต่เด็กคลอดออกมาได้ แต่ผู้เป็นแม่เอามาเร่ขายให้ขอทาน ลูกสาวของแท้ๆ ของเธอ คือ น.ส. ณัฐธนภัทร์ นิลวัฒน์ หรือ “น้องใบเตย” ขณะนั้นอายุ 15 ปี ไปพบว่าเด็กถูกขายมา 200 บาท จึงเอามาชุบเลี้ยง แถมต้องไปวิ่งเต้นช่วยครอบครัวทำใบเกิดหมดไป 5 หมื่นบาท

ลูกบุญธรรมคนที่ 6 ชื่อ ด.ญ.จ๊ะจ๋า ปัจจุบันอายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 รับอุปการะมาเมื่อปี 2547 เด็กคนนี้เป็นสายเลือดของนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่มีลูกกับเมียน้อยเป็นนักศึกษาสาวในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ของ จ.นครสวรรค์ คลอดลูกทิ้งไว้ที่ รพ.แม่และเด็ก จ.นครสวรรค์ พยาบาลใน รพ.จึงขอร้องให้เธอรับมาเลี้ยงดูเพิ่มอีกหนึ่งคน

นางชญาณ์พิมพ์ บอกว่า ช่วงนั้นฐานะทางอาชีพยังมั่นคง มีพี่เลี้ยงเด็กถึง 5 คน คนงานภายในบ้าน อีก 30 คน สามี คือ นายเกริกกิจจ์ นิลวัฒน์ อายุ 44 ปี ลูกชายตนโต คือ นายวสุกิจ นิลวัฒน์ อายุ 19 ปี เรียนอยู่ ม.นเรศวร คณะนิติศาสตร์ ปี 1 และลูกสาวของตนเองคนที่ 2 คือ น.ส.ณัฐธนภัทร์ นิลวัฒน์ หรือ “น้องใบเตย” เรียนอยู่ ม.5 ร.ร.นครสวรรค์ ทุกคนอยู่กันอย่างอบอุ่นและมีความสุข เพราะมีทรัพย์สินเกือบ 30 ล้าน ทั้งบ้านและรถยนต์ มีรถสิบล้อ 2 คัน รถกระบะ 4 ประตู 1 คัน รถเกี่ยวข้าวมูลค่าคันละ 1 ล้าน 6 แสนบาท 5 คัน มีเงินเข้าบ้านวันละเป็นแสนบาท

แต่ต้นปี 2550 ตนเองเกิดล้มป่วย ธุรกิจที่ดูแลล่มสลาย สามีที่เคยเป็นคนดีทำมาหากินหันไปเที่ยวกลางคืน-มีเมียน้อย ทิ้งทุกคนในบ้าน และแอบขายทรัพย์สินทุกอย่างในบ้าน แถมเอาบ้านที่เป็นสินสมรสไปขายแล้วให้ทนายฟ้องหย่าแยกทางกัน ขอแบ่งทรัพย์สิน ฟ้องขับไล่ทุกชีวิตที่อยู่ในบ้าน

อย่างไรก็ตาม กลางปี 2552 แม้ว่าฐานะทางเศรษฐกิจตกต่ำ นางชญาณ์พิมพ์ ก็ได้ลูกบุญธรรมคนที่ 7 มาอีก ชื่อ ด.ญ.วันดี อายุ 4 เดือน เหตุเพราะแม่ของเด็กที่มีอายุ 14 ปี ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน ยายบังคับแม่ของ ด.ญ.วันดี ให้ไปทำแท้ง สุดท้ายตนทราบข่าวก็ไปช่วยมาอีก ซึ่งทุกวันนี้ พ่อของ ด.ญ.วันดี ติดคุก แม่ติดยา เด็กก็เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วต้องพาเข้า รพ.เป็นประจำ

และลูกบุญธรรมคนที่ 8 ชื่อ “น้องลักษณ์” อายุ 15 ปี จะถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน แม่จึงพาหนีและเอามาฝากไว้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะนี้ส่งให้เรียนในชั้น ม.3 ที่ ร.ร.เยาวชนพัฒนา อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ทุกคน โดยจ้างรถรับส่งนักเรียนมารับไปโรงเรียน

อย่างไรก็ตาม ขณะนิ้ นางชญาณ์พิมพ์ ยอมรับว่า มีปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ส่งผลให้ลูกในไส้ 2 คน คือ น.ส.ณัฐธนภัทร์ นิลวัฒน์ หรือ “น้องใบเตย” เรียนอยู่ ม.5 รร.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ คนที่ 2 ตอนนี้ต้องถูกออกจากโรงเรียน เพราะไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียน จากชีวิตคุณหนูที่เคยมีแม่เป็นเศรษฐี กลับกลายเป็นต้องออกมาทำงานเลี้ยงน้อง ทั้งๆ ที่เรียนเก่งมากได้เกรดเฉลี่ย กว่า 3.5 ทุกปี

ส่วนลูกชายคนโต คือ นายวสุกิจ นิลวัฒน์ อายุ 19 ปี เรียนอยู่ ม.นเรศวร คณะนิติศาสตร์ ปี 1 ตอนนี้ไม่ได้จ่ายค่าเทอม แม้ยังมีสภาพความเป็นนักศึกษาอยู่ แต่ถ้าไม่จ่ายค่าเทอมก็จะหมดสิทธิ์เข้าสอบในเร็ววันนี้ ก็ยอมจะลาออกมา เพื่อมาทำงานรับจ้างช่วยแม่ดูแลน้องๆ ที่แม่เก็บมาเลี้ยง และรักน้องทุกคนเหมือนพี่น้องร่วมสายโลหิต จึงวอนสังคมเมตตาช่วยเหลือด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น