ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – หอการค้าเชียงใหม่เตรียมจัดสัมมนาทิศทางพัฒนาระบบลอจิสติกส์ไทย โดยเฉพาะระบบรถไฟรางคู่เชียงใหม่-กรุงเทพฯ พร้อมเตรียมผลักดันผลสรุปการสัมมนาเข้า กกร.ส่วนกลาง เพื่อเสนอต่อรัฐบาลตัดสินใจ ระบุโครงการนี้มีการศึกษามานานหากเกิดได้เชื่อจะคุ้มค่าแน่นอน
นายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าวันที่ 30 ตุลาคมนี้ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน( กกร.) จังหวัดเชียงใหม่ จะจัดการสัมมนาทิศทางการพัฒนาระบบลอจิสติกส์ไทย : ก้าวไกลหรือไกลก้าว กรณีรถไฟรางคู่กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่ห้องประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบทิศทาง นโยบายแผนการดำเนินงานของรัฐและระดมความคิดเห็นความต้องการการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ รวมทั้งทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสมของโครงการจากหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนและผู้ใช้บริการของการรถไฟแห่งประเทศไทย
ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า การพัฒนาระบบการขนส่งของเชียงใหม่และภาคเหนือมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากปัจจุบันยังขาดการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้สิ่งที่ภาคเอกชนเรียกร้องและต้องการผลักดันคือการพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ที่มีการเรียกร้องมานานแล้ว และเวลานี้หากเป็นไปได้อยากเรียกร้องให้มีการพัฒนาเป็นระบบรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ที่จะช่วยทำให้สามารถขนส่งคนและสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งการค้าการลงทุน เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมทั้งช่วยประหยัดพลังงานด้วย เพราะจะมีการหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น แทนที่จะใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง
“การผลักดันโครงการรถไฟรางคู่หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จะมีการนำเสนอผ่านทาง กกร.กลางด้วย”
นอกจากนี้ นายณรงค์ระบุว่า การลงทุนระบบรถไฟรางคู่หรือรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน แม้จะใช้งบประมาณลงทุนสูง แต่ผลที่ได้รับกลับคืนมามีความคุ้มค่า ทั้งการลดการใช้น้ำมัน ลดต้นทุนการขนส่ง การขนส่งคนได้มากขึ้นและการช่วยลดอุบัติเหตุ เป็นต้น ทั้งนี้ เชื่อว่าการลงทุนไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะที่ผ่านมาเอกชนจีนและญี่ปุ่น เคยสำรวจเส้นทางนี้มาแล้วและมีความพร้อมที่จะลงทุนด้วย ซึ่งก็ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะตัดสินใจอย่างไรก็โครงการนี้
สำหรับรายละเอียดการสัมมนาในช่วงเช้าจะเป็นการบรรยาย และอภิปรายแผนงานโครงการการพัฒนาเส้นทางรถไฟรางคู่ โดยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการจราจรและขนส่ง และผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ขณะที่ช่วงบ่ายจะเป็นการอภิปราย แสดงข้อคิดเห็น เสนอแนะโครงการรถไฟรางคู่เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ โดยประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ ตัวแทนภาคเอกชนในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ภาควิชาการและผู้เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งผลการสัมมนาในครั้งนี้จะมีการสรุปและจัดทำเป็นรูปเล่มนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งรัฐบาลต่อไป
ด้านนายสมชาย ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการบริษัท ชัยพัฒนาขนส่ง จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจเดินรถโดยสารรายใหญ่ในภาคเหนือ แสดงความเห็นว่า การลดต้นทุนการขนส่งให้แก่ผู้ประกอบการจะเป็นปัจจัยที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้แก่จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียงในภาคเหนือ ทั้งนี้มองว่ารัฐบาลน่าจะส่งเสริมการลงทุนพัฒนาขนส่งระบบรางที่มีให้มากขึ้นเพราะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าการขนส่งด้วยรถบรรทุก พร้อมทั้งอยากให้รัฐบาลผลักดันการสร้างรถไฟรางคู่ความเร็วปานกลางเชื่อมต่อกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพื่อลดระยะเวลาในการขนส่งคนและสินค้า รวมทั้งลดต้นทุนการขนส่ง ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดการลงทุนเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่ โดยมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอนในระยะยาว
แหล่งข่าวจากที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ความจริงแล้วเรื่องรถไฟรางคู่นั้นได้มีการนำเสนอกันมาเป็นเวลานานมากแล้ว ซึ่งเป็นการนำเสนอระบบรถไฟรางคู่ความเร็วสูงเด่นชัย-เชียงราย พร้อมกับมีการจ้างบริษัทเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาทำการศึกษาพร้อมกับนำข้อเสนอเข้าสู่การประชุมทุกระดับ หลายรัฐบาลแต่โครงการดังกล่าวก็ยังไม่เกิดขึ้น จึงเป็นเรื่องที่เสียโอกาสเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ งบประมาณในการก่อสร้างก็ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งทำให้เป็นปัจจัยที่จะถูกนำมาเป็นตัวดึงให้โครงการนี้ไม่ได้เกิด
“อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่ารัฐบาลชุดนี้น่าที่จะหันมามองโครงการนี้ให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียทีโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ของการรถไฟแห่งประเทศไทยรัฐก็เห็นอยู่แล้วว่ามันมีปัญหามากน้อยแค่ไหน” แหล่งข่าวกล่าว