ระยอง - หาดทรายพลา – หาดพยูน ถูกกัดเซาะบ้านหายไปทั้งหลัง ชายหาดหายไปในทะเลกว่า 50 เมตร กลุ่มประมงโวยโรงงานหยุดปล่อยน้ำเสียลงทะเล พื้นทะเลมีแต่กลิ่นแก๊ส
วันนี้ (25 ต.ค.) นายขวัญยืน เลื่อนเงิน อายุ 47 ปี อาชีพประมงเรือเล็ก (อู่ตะเภา 3) หมู่ 6 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง มานาน เปิดเผยว่า ชาวประมงหาดพลาต้องเจอกับลมมรสุม คือ ลมสลาตัน และลมตะเภา เวลาถึงฤดูมรสุมมันรุนแรงมาก แต่ละปีต้องลากเรือขึ้นบก หลบมรสุม ชายหาดถูกคลื่นลมแรงแรงกัดเซาะทรายหายตลอดแนวชายหาด แต่เมื่อลมสงบทรายก็จะกลับมาเหมือนเดิม เป็นไปตามธรรมชาติ
แต่หลังมีการดูดทรายในทะเลขึ้นมาถมพื้นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรมนับพันไร่ พอถึงหน้าลมมรสุม คราวนี้หาดทรายจะถูกกัดเซาะอย่างหนักพัดพาเอาบ้านประมงหายไปทั้งหลัง พอลมสงบคราวนี้ ทรายบริเวณชายหาดไม่กลับมาแล้ว คาดว่ามันไหลลงไปที่เขาดูดทรายในทะเลนับพันไร่ ปัจจุบันนี้ชายหาดหายไปในทะเลจากฝั่งกว่า 50 เมตร
นายขวัญยืนกล่าวว่า ชาวบ้านที่มีฐานะก็สร้างเขื่อนป้องกันหาดทราย เพราะกลัวบ้านพักจะถูกคลื่นกัดเซาะหายไปอีก ส่วนคนที่ไม่มีเงินก็ต้องปล่อยตามสภาพ ที่ผ่านมาบริเวณแนวชายหาดตั้งแต่หาดพยูน เรื่อยมาถึงหาดพลา จะมีฝูงเคยจำนวนมาก มีฝูงตามมากินเคยเป็นอาหาร ชาวประมงก็มีรายได้ แต่ทุกวันนี้ฝูงเคยแทบจะไม่มีให้เห็น ฝูงปลาก็ไม่มี เพราะว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียเวลากลางคืนและช่วงที่มีฝนตก ทำให้น้ำในทะเลเป็นฟอง เพียง 2 วันก็จะกลายเป็นตระกอนสีเหลืองลอยเต็มทะเล ปู ปลา มันก็หนีออกไปหมด ปัจจุบันนี้ต้องไปวางอวนปูม้า มีความลึกประมาณ 10 วา เวลาสาวอวนขึ้นมาจะได้กลิ่นเหม็นแก๊สติดมากับอวน ปูก็ไม่ค่อยมี ทุกวันนี้หาปู ปลา และเคย หายากเต็มที ออกไปหากินไกลออกไปก็ถูกเรืออวนลากเอาอวนของเราไปด้วย
นายขวัญกล่าวต่อว่า กลุ่มโรงงานพยายามสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับชาวประมง โดยทำปะการังเทียม วางทิ้งในทะเล เหมือนเป็นการสร้างบ้านให้ปลา ปลาที่ไหนมันจะมาอาศัยบ้านปะการังเทียม เพราะน้ำก็เสีย พื้นทะเลก็เหม็นแก๊ส ชายหาดถูกกัดเซาะ ปู ปลาในทะเลมันก็ต้องหนีตาย ทำให้ปู ปลาหายากเต็มที กลุ่มประมงเรียกร้องให้หยุดการขยายโรงงานกันซะที แค่นี้ก็สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวประมงมากเหลือเกินแล้ว พวกนายทุนสุขสบาย แต่พวกเรากำลังจะตาย
นายสุทธา เหมสถล ประธานชมรมกลุ่มประมงเรือเล็ก กล่าวว่า หาดฃพยูนและหาดพลา ถูกคลื่นกัดเซาะพังเสียหายเป็นระยะทางไกลมาก ชาวประมงต้องประสบความเดือดร้อน ชายหาดนับวันจะถอยร่นขึ้นฝั่งมากขึ้นทุกปี