ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชสรุปยอดขึ้นทะเบียนเกษตรกรกว่า 2.4 แสนครัวเรือนมากกว่าตัวเลขเป้าหมายที่ตั้งไว้ เผยพืชเศรษฐกิจ 3 ตัวหลักชาวไร่มันฯ แห่ขอขึ้นทะเบียนร่วมโครงการประกันรายได้มากสุดเฉียด 8 หมื่นครัวเรือน สูงกว่าฐานข้อมูลเดิม 102.65% รวมพื้นที่ปลูกกว่า 1.7 ล้านไร่คาดผลผลิต 6.49 ล้านตัน ขณะข้าวนาปีอีกกว่า 9,000 ครัวเรือนยังไม่ขึ้นทะเบียน ต้องขยายเวลาไปอีกถึงสิ้นเดือน ต.ค.
วันนี้ (21 ต.ค.) นายสวัสดิ์ บึงไกร เกษตรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและการขึ้นทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด (ข้าว-ข้าวโพด-มันสำปะหลัง) ประจำปี 2552 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-30 ก.ย.ว่า ได้รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรทั้ง 32 อำเภอของ จ.นครราชสีมา แล้วทั้งสิ้น 245,525 ครัวเรือน คิดเป็น 106.02% ซึ่งมากกว่าจำนวนครัวเรือนเกษตรกรจากฐานข้อมูลเดิมของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรนครราชสีมา ที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวน 231,579 ครัวเรือน
ส่วนการขึ้นทะเบียนการผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด ได้แก่ข้าวโพด มันสำปะหลังและข้าว ซึ่งดำเนินการระหว่าง 9 ก.ค.-30 ก.ย. ปรากฏว่า มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาขึ้นทะเบียนแล้วทั้งสิ้นจำนวน 35,803 ครัวเรือน คิดเป็น 85.90% ใกล้เคียงกับจำนวนครัวเรือนฐานข้อมูลเดิมฯ ที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวน 41,680 ครัวเรือน รวมพื้นที่เพาะปลูก 982,824 ไร่ ผลผลิตรวม 791,014 ตัน ในจำนวนนี้ผ่านการประชาคมแล้ว 35,296 ครัวเรือน รวมพื้นที่เพาะปลูก 9.72 แสนไร่ ผลผลิตรวม 7.82 แสนตัน
สำหรับมันสำปะหลัง รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้วทั้งสิ้น 73,298 ครัวเรือน คิดเป็น 102.65% มากกว่าจำนวนครัวเรือนเกษตรกรตามฐานข้อมูลเดิมฯ ที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวน 71,405 ครัวเรือน รวมพื้นที่เพาะปลูก 1,715,472 ไร่ ผลผลิตรวม 6,497,814 ตัน ผ่านการประชมคมแล้วจำนวน 72,266 ครัวเรือน รวมพื้นที่เพาะปลูก 1.69 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 6.48 ล้านตัน
ส่วนข้าวนาปี มีเกษตรกรมาขอขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 181,366 ครัวเรือน คิดเป็น 95.45% จากฐานข้อมูลเดิมฯ ที่ตั้งเป้าหมายไว้จำนวน 192,955 ครัวเรือน รวมพื้นที่เพาะปลูกข้าวจำนวน 3,990,052 ไร่ ผลผลิตรวม 1,596,020 ตัน ผ่านการทำประชาคมแล้วจำนวน 160,48 ครัวเรือน รวมพื้นที่เพาะปลูก 9.72 แสนไร่ รวมผลผลิต 7.82 แสนตัน โดยยังเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอีกประมาณ 9,000 ครัวเรือนที่ยังไม่ยื่นขอขึ้นทะเบียน ทางจังหวัดฯ จึงได้ขยายเวลาการขอรับการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปีไปถึงวันที่ 31 ต.ค. นี้ เพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียโอกาส
นายสวัสดิ์กล่าวต่อว่า เกษตรกรที่ขอรับการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกมันสำปะหลัง และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีกาลเพาะปลูก 2552 และผ่านการรับรองจากการทำเวทีประชาคมตรวจสอบข้อมูลของชุมชนแล้ว ให้ติดต่อขอรับใบรับรองได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ที่มีการปลูกพืช เพื่อนำใบรับรองไปทำสัญญาเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต่อไป
“เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชาวโคราช ท่านใดยังไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี ให้รีบไปติดต่อขอรับการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี ที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงเพาะปลูก และเข้าร่วมประชาคมยืนยันการทำการเพาะปลูกจริงเพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ในการเข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรต่อไป” นายสวัสดิ์กล่าว