พบสาวใหญ่ป่วย ฉายา “เพชร สะเก็ดดาว” นอนตากแดด-ฝนในตรอกน้ำค้างตลาดสัตหีบ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านร้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแลสาวใหญ่ฉายา “เพชร สะเก็ดดาว” ผิวหนังเป็นแผลตกสะเก็ด นอนตากแดดตากฝนในตรอกน้ำค้าง ถนนชายทะเล ตลาด 100 ปีสัตหีบ พบพฤติกรรมแปลกๆ มีคนมีสีในพื้นที่และผู้ชายแปลกหน้าวนเวียนมาหาทั้งกลางวันและกลางคืน ยื่นเงินแลกเปลี่ยนของปลอมที่ล้วงออกจากกางเกงในฝ่ายหญิง

วันที่ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากผู้พบเห็นให้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรมนุษย์ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ป่วย มาช่วยเหลือสาวใหญ่คนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวนอนตากแดดตากฝนอยู่ในตรอกน้ำค้าง ถนนชายทะเล หมู่ที่ 1 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

โดยทั่วร่างกายมีแต่ปุ่มหนองที่กำลังกำเริบ และแห้งบ้างแล้วเป็นบางส่วน ในเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นโรคผิวหนังชนิดร้ายแรง ซึ่งได้พยายามสอบถามชื่อ และนามสกุลจริง แต่สาวใหญ่คนดังกล่าวไม่ยอมเปิดเผย และไม่ต้องการให้ถ่ายภาพตัวเอง

จากการสอบถามนางสาวเพชร สะเก็ดดาว (ฉายาที่กลุ่มวัยรุ่นเรียก) ถึงที่อยู่เพื่อจะได้แจ้งให้ญาติมารับตัวไปดูแดรักษาโรคร้ายที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ซึ่งนางสาวเพชรกล่าวว่า ได้เคยมีหน่วยงานมารับตัวไปหาหมอเพื่อทำการรักษาแต่ไม่ยอมไปด้วย และสาเหตุที่ต้องมาใช้ชีวิตนอนกินอยู่ในตรอกแห่งนี้ เพราะไม่มีใครกล้าให้เข้าไปนอนที่บ้านด้วย คงเกรงว่าจะติดเชื้อโรคติดต่อจึงต้องนอนอยู่กลางตรอกน้ำค้างแห่งนี้ ถ้าฝนตกก็จะหลบอยู่ตามชายคาบ้านผู้อื่น

ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้อุปการคุณให้อาหารรับประทาน เธอบอกว่าเธอมีเงินทั้งที่ไม่มีงานทำและบริเวณใกล้ตัวเธอได้พบรถจักรยานยนต์ชนิดเก่าจอดอยู่ 1 คัน เธอบอกว่ามีข้าราชการในพื้นที่นำมาจำนำไว้เป็น 600 บาท นานถึง 2 เดือนแล้วไม่ยอมนำเงินมาไถ่คืน ยิ่งทำให้สงสัยว่าเธอนำเงินมาจากไหน ได้พยายามสอบถามแต่เธอก็พยายามบ่ายเบี่ยงที่จะตอบความจริง

จากการสอบถามประชาชนที่เฝ้าดูพฤติกรรมของ นางสาวเพชรทราบว่าเธอมีพฤติกรรมแปลกๆ มักจะมีวัยรุ่น คนมีสี และหนุ่มผมเกรียน มาหาบ่อยๆ จากการสังเกตพฤติกรรมน่าจะมีการซื้อขายหรือแลกเปลี่ยนสิ่งของกัน เมื่อเธอรับเงินก็จะเดินเข้าไปล้วงเอาของที่ใส่ไว้ในกางเกงในออกมาส่งให้ทำให้ทุกคนสงสัยว่าเธอป่วยแต่ไม่ยอมไปหาหมอ แต่เธอกับมีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ต้องขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าดูพฤติกรรมจะได้หมดปัญหา และส่งตัวให้แพทย์รักษาก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น