กาญจนบุรี – รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี สั่งระดมเจ้าหน้าที่อพยพเด็กและคนชราในพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมหนักด่วน พร้อมประสานขอกำลังทหารจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ และ ตชด.13 เข้าช่วยเหลือหลังน้ำป่าทะลักเข้าท่วมอำเภอเลาขวัญ-ห้วยกระเจา-บ่อพลอย ระลอก 2
นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี และได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ และ ตชด.13 เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน
โดยเบื้องต้นให้เจ้าหน้าที่อพยพเด็ก และคนชรา ออกมาจากพื้นที่ล่อแหลม ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงภัยมากที่สุดให้มาอาศัยอยู่ตามสถานที่ที่ปลอดภัย เช่น ตามโรงเรียน และที่วัด โดยทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำเต็นท์ไปติดตั้งเพื่อเป็นสถานที่พักชั่วคราว ส่วนผู้ชายที่อยู่ในวัยหนุ่ม ให้นอนเฝ้าทรัพย์สินที่บ้าน และให้ผู้ชายเหล่านั้นฝึกซ้อมการช่วยเหลือ เผื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
สำหรับจุดที่ล่อแหลมที่อาจเกิดน้ำท่วมมากที่สุดมีทั้งสิ้น 4 ตำบล คือ ต.หนองนกแก้ว ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย และ ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา ซึ่งหากพื้นที่ไหนต้องการความช่วยเหลือด่วนสามารถประสานไปที่กองพลทหารราบที่ 9 และ ตชด.13 ได้ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (18 ต.ค.) นายเทพประสิทธิ์ วงษ์ท่าเรือ นายอำเภอห้วยกระเจา ได้เดินทางมาที่ เทศบาลสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เพื่อร่วมประชุมหารือเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมในพื้นที่ ต.สระลงเรือ ที่สถานการณ์การไหลหลากของน้ำป่าจากพื้นที่สูงจาก อ.เลาขวัญ ที่เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและที่ทำกินของเกษตรกรครอบคลุมพื้นที่ 17 หมู่บ้าน มี 1 หมู่บ้านระดับน้ำสูง 3 เมตร ชาวบ้านจำนวน 34 ครัวเรือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยในที่ประชุมทางนายอำเภอห้วยกระเจาเร่งทำหนังสือถึงกองพลทหารราบที่ 9 เพื่อขอสนับสนุนเรือท้องแบนและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ อย่างเร่งด่วน
นายเทพประสิทธิ์ วงษ์ท่าเรือ นายอำเภอห้วยกระเจา เปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมตำบลสระลงเรือครั้งนี้ ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายปีแต่เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเมื่อน้ำป่าจาก อ.เลาขวัญไหลหลากมาสมทบทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น บางพื้นที่สูงถึง 3 เมตรชาวบ้านเดือดร้อนมาก ตนจึงรีบรายงานจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อขอความช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีตำบลสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ว่า จากการที่เกิดน้ำท่วมที่ตำบลสระลงเรือ น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่กว่า 1 หมื่นไร่ พื้นที่เกษตรได้รับความเสียหายกว่ากว่า 5 พันไร่ระลอกแรก เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2552 แต่ตอนนี้เกิดทราบว่าเกิดปัญหาน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยรวกห้วยเทียนในพื้นที่ อ.เลาขวัญ ที่เป็นที่สูงเกิดไหลหลากลงมาอีกมาสมทบกับน้ำฝนที่ตกหนักติดต่อกันใน2วันที่ผ่านมาทำให้เป็นการสร้างปัญหาระดับน้ำไหลหลากท่วมเข้ามาอีกเป็นระลอกสองเป็นการซ้ำเติมชาวบ้านได้รับทุกข์จากภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลากมากขึ้น
โดยเฉพาะพื้นที่หมู่ 8 บ้านพุบอน ระดับน้ำสูงขึ้นถึง 3 เมตร ชาวบ้าน 34 ครัวเรือน กำลังเดือดร้อนมาก ตนจึงเร่งทำการติดต่อขอการสนับสนุนจากกองพลทหารราบที่9 เพื่อขอเรือท้องแบนเพื่อขนถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้
ส่วนพื้นที่อำเภอเลาขวัญ ที่เป็นเขตติดต่อน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายมาก พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 30,000-40,000 ไร่ น้ำท่วมครอบคลุมทั้งสิ้น 17 หมู่บ้าน
