ชาวพิจิตรประณามลูกเนรคุณรื้อบ้านแม่ขายทิ้ง-สุดท้ายสำนึกผิดขอขมาแม่บังเกิดเกล้า

พิจิตร – ชาวพิจิตรรุมประณามลูกเนรคุณ รื้อถอนบ้านแม่บังเกิดเกล้าทิ้ง หลังได้สิทธิ์จัดการมรดกเมื่อพ่อตาย แถมติดป้ายประกาศขาย สุดท้ายเจอมาตรการทางสังคม จนทนไม่ไหว สำนึกผิดยอมขอขมาแม่บังเกิดเกล้า พร้อมสัญญาจะดูแลแม่จนกว่าชีวิตจะหาไม่

รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตร นางอ่อม จูเมือง อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/2 หมู่ 4 ตำบลท่าหลวง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ที่หลังจากสามีเสียชีวิต ลูกชายคนโต คือนายสุวรรณ จูเมือง ได้ไปขอศาลเป็นผู้จัดการมรดก จากนั้นก็ได้รื้อบ้านที่แม่บังเกิดเกล้าใช้เป็นที่ซุกหัวนอน แถมปักป้ายประกาศขายที่ดินจนในที่สุดแม่ต้องเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ตนเองสุดทนกับการกระทำของลูกชาย ซึ่งเป็นสายเลือดของตัวเอง

ภายหลังจากเป็นข่าวชาวบ้านทั้งตำบลท่าหลวง และชาวพิจิตร ต่างรุมสาปแช่งถึงความเนรคุณและไม่มีใครยอมคบหากับนายสุวรรณ จนล่าสุดนายวิศิษฐ์ ฉัตรศรีสุวรรณ อัยการจังหวัดพิจิตร ฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชน ได้เรียกทุกฝ่ายมาทำการเจรจาไกล่เกลี่ย เนื่องจากเป็นคดีของครอบครัว สามารถตกลงกันได้

อัยการฯได้ยกเรื่องบาปบุญคุณโทษ กฎแห่งกรรมตามหลักพระพุทธศาสนา เข้าเกลี้ยกล่อมทั้งสองฝ่าย จนในที่สุดนายสุวรรณ จูเมือง ได้ยินยอม จะแบ่งมรดกส่วนหนึ่งให้กับผู้เป็นแม่ และจะสร้างบ้านขึ้นมาทดแทนให้ใหม่ในที่ดินแปลงเดิม เพื่อให้แม่ได้อยู่อาศัย พร้อมทั้งสำนึกผิด และยอมกล่าวคำขอขมาต่อผู้เป็นแม่ พร้อมทั้งกราบขอขมาและขออโหสิกรรมกับการกระทำไปจากความละโมบจนลืมบาปบุญคุณโทษไปชั่วขณะ

นางอ่อม จูเมือง ผู้เป็นแม่ ก็ยอมอโหสิกรรม แถมยังอวยพรให้ลูกเจริญรุ่งเรือง อีกด้วย

นายสุวรรณ บอกว่า ทำผิดไปแล้วขอให้เพื่อนบ้านยกโทษให้ด้วย เพราะที่ผ่านมาเพียง 5 – 7 วัน ที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าคนทั้งตำบลต่างไม่พูดด้วย แถมพอหันหลังก็มีคนด่าตะโกนไล่ ว่า ไอ้เนรคุณ แถมสาปแช่งให้ฉิบหายวายวอด กลับบ้านต้องนอนฝันร้ายทุกคืน จนได้วันนี้ ได้ขอขมา และแม่ยกโทษให้ จึงเหมือนยกไฟนรกออกจากหัวและสัญญาว่า จะเป็นลูกกตัญญูไม่ทำเรื่องชั่วช้าสามานย์อย่างนี้อีกต่อไปแล้ว พร้อมทั้งจะทดแทนบุญคุณจนกว่าแม่จะมีชีวิตหาไม่ เพราะกลัวบาปบุญคุณโทษ และกงกำกงเกวียนที่จะเป็นไปตามคำสาปแช่งของแม่และเพื่อนบ้าน