ตร.คุมตัว สาวโหด ทำแผนฆ่าปาดคอแม่หม้ายยัดศพใต้เตียง ภายในคอนโดย่านพหลโยธิน 54/1 ประชาชนรุมด่ายับ หลังหลบหนีไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่ จ.พิจิตร ก่อนเจ้าหน้าที่สืบทราบและตามจับได้ สารภาพสิ้น ลงมือเพราะทะเลาะมีปากเสียงกันเรื่องหนี้สิ้น จึงตัดสินใจใช้ขวดเบียร์ฟาดศีรษะ ก่อนใช้มีดปาดคอซ้ำ
จากกรณีที่ นางจิระพันธ์ แอมสแตน อายุ 65 ปี ถูกคนร้ายฆ่าโหด ปาดคอ แทงตามร่างกายและนำศพห่อหุ้มด้วยผ้าห่มซ้อนทับกับถุงอีก 3 ชั้น โดยมีเทปกาวสีขาวเป็นเครื่องพันธนาการ ก่อนที่จะนำศพไปยัดไว้ที่ใต้เตียงภายในห้อง เลขที่ 28/4 ชั้น 3 รุ่งทรัพย์คอนโดทาวน์ พหลโยธิน 54/1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (23 มิ.ย.) พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศานุจารย์ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.ภูดิท จิตตธรรม สว.สส.สน.บางเขน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน คุมตัว น.ส.สรณีย์ หรือ หน่อย หนูจันทึก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1456 หมู่ 7 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1979/2551 ลงวันที่ 21 มิ.ย.2551 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังห้องเกิดเหตุ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 226 หมู่ 4 บ้านโพธิ์ไทรงาม อ.บึงนาราง จ.พิจิตร เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางมีดปลายแหลมเปื้อนเลือด 1 เล่ม เงินสดจำนวน 40,000 บาท และเครื่องประดับอื่นๆ อีกรวมทั้งสิ้น 16 รายการ
พ.ต.ท.ภูดิท เปิดเผยว่า จากการสอบสวน น.ส.สรณีย์ ให้การรับสารภาพว่า รู้จักและสนิทสนมกับผู้ตายมาเป็นเวลานานแล้ว โดยผู้ตายมักจะชอบชักชวนผู้ต้องหามาดื่มเหล้าดื่มเบียร์ด้วยกันเป็นประจำ ซึ่งผู้ต้องหาก็มักจะคอยทำความสะอาดภายในห้องของผู้ตายให้จนได้รับความไว้วางใจ จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ใช้ผู้ต้องหานำทองไปจำนำที่ได้เงินมา 200,000 บาท แต่เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ผู้ต้องหา ได้ทำทีไปขอยืมเงินจากผู้ตายจำนวน 200,000 บาท โดยอ้างว่าจะเอาไปทำธุระ เมื่อได้เงินมาก็แอบไปไถ่ทองออกมาจากโรงจำนำ ก่อนจะนำไปขายต่อในราคา 270,000 บาท ได้กำไรมา 70,000 บาท
พ.ต.ท.ภูดิท กล่าวต่อว่า ภายหลังผู้ตายก็ทวงถามเรื่องเงินที่ขอยืมไป อีกทั้งจะให้ผู้ต้องหานำเงินไปไถ่ทองที่จำนำไว้ออกมา แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนกระทั่งก่อนวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายก็ขึ้นไปเคาะห้องพักชั้น 5 เพื่อตามผู้ต้องหาลงมานั่งดื่มเบียร์ด้วยกันที่ห้องเกิดเหตุ พร้อมทั้งจะให้เงินผู้ตายไปไถ่ทองออกมา ทำให้ผู้ต้องหาคิดว่าผู้ตายมีเงินอยู่จำนวนมาก เลยตัดสินใจที่จะฆ่าผู้ตายทิ้งเพื่อเป็นการเคลียร์หนี้เก่าไปด้วย เลยเตรียมมีดลงมานั่งดื่มเบียร์ด้วยกันที่ห้องเกิดเหตุ จนกระทั่งทั้งสองฝ่ายเกิดมีปากเสียงกันเรื่องหนี้สิน ผู้ต้องหาจึงใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะผู้ตายจนสลบ ก่อนจะใช้มีดที่เตรียมมาปาดคอผู้ตายซ้ำ แล้วใช้ถุงดำกับผ้าห่มห่อศพซ้ำแล้วยังศพไว้ใต้เตียง
หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้เปลี่ยนเสื้อที่เปื้อนเลือดออกไปใส่ตัวใหม่ ก่อนเก็บกวาดทรัพย์สินของผู้ตายภายในห้อง แล้วใช้บันไดหนีไฟกลับไปที่ห้องพักของตัวเองที่ชั้น 5 เสร็จแล้วก็ลงมาเหมาแท็กซี่ให้ไปส่งที่จังหวัดพิจิตร ในราคา 5,000 บาท โดยตั้งใจจะหลบไปอยู่กับเพื่อนสามีที่เป็นตำรวจอยู่ที่นั่น จนเจ้าหน้าที่สืบทราบจึงนำกำลังไปดักซุ่ม ก่อนจับกุมได้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว น.ส.สรณีย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็มีเพื่อนผู้ตาย รวมทั้งชาวบ้านที่พักอยู่ภายในอาคารและนอกอาคาร จำนวนกว่า 100 คน มามุงดูอยู่ที่ด้านล่างของอาคาร พร้อมทั้งรุมสาปแช่งด่า และพยายามจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวขึ้นไปทำแผนที่ห้องเกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนจะรีบนำตัวกลับไปยัง สน.บางเขน ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ได้เค้าตัวคนร้ายฆ่าโหดยัดศพใต้เตียงแล้ว
ฆ่าโหด!ปาดคอแม่หม้ายวัยดึกยัดศพใต้เตียง
จากกรณีที่ นางจิระพันธ์ แอมสแตน อายุ 65 ปี ถูกคนร้ายฆ่าโหด ปาดคอ แทงตามร่างกายและนำศพห่อหุ้มด้วยผ้าห่มซ้อนทับกับถุงอีก 3 ชั้น โดยมีเทปกาวสีขาวเป็นเครื่องพันธนาการ ก่อนที่จะนำศพไปยัดไว้ที่ใต้เตียงภายในห้อง เลขที่ 28/4 ชั้น 3 รุ่งทรัพย์คอนโดทาวน์ พหลโยธิน 54/1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (23 มิ.ย.) พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ศานุจารย์ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.ภูดิท จิตตธรรม สว.สส.สน.บางเขน พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน คุมตัว น.ส.สรณีย์ หรือ หน่อย หนูจันทึก อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/1456 หมู่ 7 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1979/2551 ลงวันที่ 21 มิ.ย.2551 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังห้องเกิดเหตุ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 226 หมู่ 4 บ้านโพธิ์ไทรงาม อ.บึงนาราง จ.พิจิตร เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางมีดปลายแหลมเปื้อนเลือด 1 เล่ม เงินสดจำนวน 40,000 บาท และเครื่องประดับอื่นๆ อีกรวมทั้งสิ้น 16 รายการ
พ.ต.ท.ภูดิท เปิดเผยว่า จากการสอบสวน น.ส.สรณีย์ ให้การรับสารภาพว่า รู้จักและสนิทสนมกับผู้ตายมาเป็นเวลานานแล้ว โดยผู้ตายมักจะชอบชักชวนผู้ต้องหามาดื่มเหล้าดื่มเบียร์ด้วยกันเป็นประจำ ซึ่งผู้ต้องหาก็มักจะคอยทำความสะอาดภายในห้องของผู้ตายให้จนได้รับความไว้วางใจ จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ใช้ผู้ต้องหานำทองไปจำนำที่ได้เงินมา 200,000 บาท แต่เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ผู้ต้องหา ได้ทำทีไปขอยืมเงินจากผู้ตายจำนวน 200,000 บาท โดยอ้างว่าจะเอาไปทำธุระ เมื่อได้เงินมาก็แอบไปไถ่ทองออกมาจากโรงจำนำ ก่อนจะนำไปขายต่อในราคา 270,000 บาท ได้กำไรมา 70,000 บาท
พ.ต.ท.ภูดิท กล่าวต่อว่า ภายหลังผู้ตายก็ทวงถามเรื่องเงินที่ขอยืมไป อีกทั้งจะให้ผู้ต้องหานำเงินไปไถ่ทองที่จำนำไว้ออกมา แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนกระทั่งก่อนวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ตายก็ขึ้นไปเคาะห้องพักชั้น 5 เพื่อตามผู้ต้องหาลงมานั่งดื่มเบียร์ด้วยกันที่ห้องเกิดเหตุ พร้อมทั้งจะให้เงินผู้ตายไปไถ่ทองออกมา ทำให้ผู้ต้องหาคิดว่าผู้ตายมีเงินอยู่จำนวนมาก เลยตัดสินใจที่จะฆ่าผู้ตายทิ้งเพื่อเป็นการเคลียร์หนี้เก่าไปด้วย เลยเตรียมมีดลงมานั่งดื่มเบียร์ด้วยกันที่ห้องเกิดเหตุ จนกระทั่งทั้งสองฝ่ายเกิดมีปากเสียงกันเรื่องหนี้สิน ผู้ต้องหาจึงใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะผู้ตายจนสลบ ก่อนจะใช้มีดที่เตรียมมาปาดคอผู้ตายซ้ำ แล้วใช้ถุงดำกับผ้าห่มห่อศพซ้ำแล้วยังศพไว้ใต้เตียง
หลังจากนั้น ผู้ต้องหาได้เปลี่ยนเสื้อที่เปื้อนเลือดออกไปใส่ตัวใหม่ ก่อนเก็บกวาดทรัพย์สินของผู้ตายภายในห้อง แล้วใช้บันไดหนีไฟกลับไปที่ห้องพักของตัวเองที่ชั้น 5 เสร็จแล้วก็ลงมาเหมาแท็กซี่ให้ไปส่งที่จังหวัดพิจิตร ในราคา 5,000 บาท โดยตั้งใจจะหลบไปอยู่กับเพื่อนสามีที่เป็นตำรวจอยู่ที่นั่น จนเจ้าหน้าที่สืบทราบจึงนำกำลังไปดักซุ่ม ก่อนจับกุมได้ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว น.ส.สรณีย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็มีเพื่อนผู้ตาย รวมทั้งชาวบ้านที่พักอยู่ภายในอาคารและนอกอาคาร จำนวนกว่า 100 คน มามุงดูอยู่ที่ด้านล่างของอาคาร พร้อมทั้งรุมสาปแช่งด่า และพยายามจะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบนำตัวขึ้นไปทำแผนที่ห้องเกิดเหตุอย่างละเอียด ก่อนจะรีบนำตัวกลับไปยัง สน.บางเขน ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ได้เค้าตัวคนร้ายฆ่าโหดยัดศพใต้เตียงแล้ว
ฆ่าโหด!ปาดคอแม่หม้ายวัยดึกยัดศพใต้เตียง
