นราธิวาส - จังหวัดนราธิวาสจัดโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2552 - กุมภาพันธ์ 2553 ยกระดับเกษตรกรในพื้นที่ให้ดีขึ้น ซึ่งยังพบว่ามีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนแล้วกว่าแสนไร่
นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงโครงการประกันราคาผลิตผลการเกษตรว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ประกันราคาผลิตผลการเกษตรของพืชเศรษฐกิจสำคัญจำนวน 3 ประเภท คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และข้าวเปลือกนาปี ซึ่งในส่วนของจังหวัดนราธิวาสมีการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลักเพียงชนิดเดียวคือข้าวนาปี
จากการสำรวจพบว่าพื้นที่นาทั้งหมดในขณะนี้มี 185,415 ไร่ แต่มีการขึ้นทะเบียนจำนวน 125,903 ไร่ และมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน จำนวน 117,022 ราย ซึ่งโครงการประกันราคาผลิตผลการเกษตร มีระยะการดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2552 -กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส ระดับอำเภอ และศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลจะดำเนินการรับขึ้นทะเบียนเกษตร ทั้งนี้เกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนอย่างต่อเนื่องได้ เพื่อเข้าสู่ระบบการช่วยเหลือจากภาครัฐซึ่งจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้แน่นนอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมถึงการจัดโครงการดังกล่าวว่าเป็นการจัดขึ้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร และเพื่อให้ทราบจำนวนเกษตรกรที่มีอยู่ทั้งหมด รวมถึงเนื้อที่เพาะปลูกและปริมาณผลผลิตของพืชเศรษฐกิจหลัก และที่สำคัญถือเป็นการป้องกันการสวมสิทธิ์เกษตรกรด้วย
นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวถึงโครงการประกันราคาผลิตผลการเกษตรว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ประกันราคาผลิตผลการเกษตรของพืชเศรษฐกิจสำคัญจำนวน 3 ประเภท คือ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และข้าวเปลือกนาปี ซึ่งในส่วนของจังหวัดนราธิวาสมีการขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลักเพียงชนิดเดียวคือข้าวนาปี
จากการสำรวจพบว่าพื้นที่นาทั้งหมดในขณะนี้มี 185,415 ไร่ แต่มีการขึ้นทะเบียนจำนวน 125,903 ไร่ และมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน จำนวน 117,022 ราย ซึ่งโครงการประกันราคาผลิตผลการเกษตร มีระยะการดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2552 -กุมภาพันธ์ 2553 โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส ระดับอำเภอ และศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบลจะดำเนินการรับขึ้นทะเบียนเกษตร ทั้งนี้เกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนสามารถแจ้งขึ้นทะเบียนอย่างต่อเนื่องได้ เพื่อเข้าสู่ระบบการช่วยเหลือจากภาครัฐซึ่งจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้แน่นนอน
ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวเพิ่มเติมถึงการจัดโครงการดังกล่าวว่าเป็นการจัดขึ้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร และเพื่อให้ทราบจำนวนเกษตรกรที่มีอยู่ทั้งหมด รวมถึงเนื้อที่เพาะปลูกและปริมาณผลผลิตของพืชเศรษฐกิจหลัก และที่สำคัญถือเป็นการป้องกันการสวมสิทธิ์เกษตรกรด้วย