เชียงราย – จับอีกแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ส่งขายชายแดนพม่า หลังออกตุ๋นพนักงานนวดสาว หลอกยืมรถไปซื้อของ โดยทิ้งแฟนหนุ่มให้ใช้บริการนวดแผนโบราณต่อ ก่อนส่งขายให้ลูกค้าฝั่งพม่า สุดท้ายไปไม่รอดถูกจับยกชุด
รายงานข่าวกจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (7 ต.ค.) พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม ผกก.สภ.เมืองเชียงราย สืบทราบมีขบวนการหรือแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ชาวต่างชาติออกอาละวาดโจรกรรมรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านในพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง จึงมอบหมายให้ พ.ต.ท.สมชาย มีอนันต์ รอง ผกก.สส.และ พ.ต.ต.สรัญรัฐ ชยนนท์ สว.สส.สภ.เมืองเชียงราย นำกำลังชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมแก๊งดังกล่าว
ต่อมาได้มีผู้เสียหายชื่อ น.ส.แสงหล้า มณีจันสุข อาชีพเป็นพนักงานนวดแผนโบราณ แจ้งว่ารถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟีโน่ สีขาว-ฟ้า ทะเบียน คคว 552 เชียงราย ซึ่งจอดเอาไว้ที่โรงแรม เจ เจ ฮัท ตั้งอยู่บริเวณห้าแยกพ่อขุน อ.เมือง เพื่อให้บริการนวดให้กับลูกชายชายคนหนึ่งซึ่งมาพร้อมกับผู้หญิงอีกคน ระหว่างนวดฝ่ายหญิงได้ทำทีมาขอยืมกุญแจรถจักรยานยนต์อ้างว่าจะไปซื้อสุรามาดื่ม น.ส.แสงหล้า จึงตัดสินใจให้ยืม เพราะเห็นว่าฝ่ายชายก็ยังอยู่ในห้องอยู่ แต่ปรากฏว่าช่วงจังหวะที่เผลอฝ่ายชายก็รีบหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วจึงรู้ว่าถูกแก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลอกลวงแล้ว จึงแจ้งกับตำรวจดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงราย จึงได้ประสานกับทางโรงแรมเพื่อดูภาพจากวงจรปิดของโรงแรม จึงสืบทราบว่า ชายที่ไปใช้บริการนวดกับ น.ส.แสงหล้า คนดังกล่าวมีชื่อว่านายวีรวัตร ชีวิตไทย อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/9 ถ.ราชเดชดำรง หมู่ที่ 16 ต.เวียง อ.เมือง ส่วนฝ่ายหญิงมีชื่อว่า น.ส.ธันยธร ห่านนันทาพิทักษ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 278/3 หมู่ที่ 16 ต.รอบเวียง จึงได้กระจายกำลังกันออกติดตามจับกุมได้ภายในถนนในเขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง นั่นเอง
จากการสอบสวนทั้งคู่ก็ให้การรับสารภาพว่า ได้วางแผนโจรกรรมรถของ น.ส.แสงหล้า ด้วยวิธีการหลอกให้ไปนวดและยืมกุญแจจริง จากนั้นได้นำรถไปส่งให้กับนายวีระพันธ์ สวัสดี อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 354 หมู่ที่ 10 ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก ซึ่งเปิดร้านซ่อมและตกแต่งรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณสี่แยกศรีทรายมูล อ.เมืองเชียงราย เพื่อดัดแปลงสภาพรถไม่ให้เจ้าของเดิมจำได้และมีสภาพที่ดีขึ้น เพื่อนำรถไปขายต่อนายจ่อไหน่ทูน ไม่ทราบนามสกุล อายุ 38 ปี ชาวพม่าที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย โดยตกลงราคาซื้อขายกันคันละประมาณ 12,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปจับกุมตัวนายวีระพันธ์ได้อีกคน จากนั้นให้ นายวีรวัตร โทรศัพท์แจ้งไปถึงนายจ่อไหน่ทูน ที่อยู่ฝั่งพม่า ให้นำรถจักรยานยนต์กลับมาคืนในฝั่งไทยเพราะเป็นรถที่ถูกโจรกรรมไป ซึ่งพบว่านายไหน่ทูน ยอมนำมาคืนให้แต่โดยดี เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปให้ปากคำที่ สภ.เมืองเชียงราย และนำรถจักรยานยนต์ไปคืน น.ส.แสงหล้า และควบคุมตัวชายหญิงทั้ง 3 คนที่ก่อเหตุส่ง ร.ต.ท.สันติ ศิริสำราญ ร้อยเวร สอบสวนดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์-รับของโจรต่อไป
