xs
xsm
sm
md
lg

มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) เร่งช่วยเหยื่อน้ำท่วมตากเต็มที่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตาก - รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก มอบถุงพระราชทานช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัย ที่อำเภอบ้านตาก ส่วนสถานีกาชาดเทพรัตน์ นำสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่แม่ระมาด


วันนี้ (6 ต.ค.) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่งพา(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงโปรดเกล้าให้ นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงพระราชทานไปมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยที่โรงเรียนบ้านยางโองน้ำ ต.แม่สลิด อ.บ้านตาก จำนวน 432 ถุง โดยมีนายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยนายอำเภอบ้านตาก ข้าราชการ และพสกนิกรชาวอำเภอบ้านตากให้การต้อนรับ และได้นำรถประกอบอาหารเคลื่อนของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มาประกอบอาหารเลี้ยงราษฎรที่ประสบภัยในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “กิสนา” ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในจังหวัดตาก รวม 6 อำเภอ 39 ตำบล 81 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 20,343 ครัวเรือน 79,852 คน โดยเฉพาะอำเภอบ้านตาก อำเภอแม่ระมาด และอำเภอสามเงา ได้รับผลกระทบมากกว่าอำเภออื่นๆ

พื้นที่อำเภอบ้านตาก ต.แม่สลิด ได้รับผลกระทบจำนวน 9 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 1,530 ครัวเรือน 6,120 คน พื้นที่ทางการเกษตรและสิ่งสาธารณประโยชน์อยู่ในระหว่างการสำรวจความเสียหาย เบื้องต้นจังหวัดตาก ส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เข้าไปเยี่ยมเยียนราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย พร้อมให้ความช่วยเหลือแจกจ่ายถุงยังชีพให้เป็นบางส่วนแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกัน ที่บริเวณ สะพานข้ามแม่น้ำแม่ตื่นช่วง ที่ขาด สถานีกาชาดเทพรัตน์ ที่ 13 จ.ตาก, พลโทนายแพทย์ อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุก และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย, นายภูมิชัย ตะพานแก้ว นายอำเภอแม่ระมาด, พันตำรวจโทสมศักดิ์ ศรีบุญเรือง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ ตชด.ที่ 34 อำเภอแม่สอด และนาย ธนิตพล ไชยนันทน์ ส.ส.ตาก รวมทั้งทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมททหารราบที่ 4 อำเภอแม่สอด ได้เดินทางไปยังบ้านโพเก่ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่ตื่น อำเภอแม่ระมาด ซึ่งเป็นบริเวณจุดที่สะพานคอนกรีต ยาว 120 เมตร ที่ข้ามแม่น้ำแม่ตื่น ถูกกระแสน้ำอัดจนแยกออกเป็น 2 ส่วน

ทำให้ราษฎรกะเหรี่ยง สัญชาติไทย 13 หมู่บ้าน ได้รับความเดือดร้อน และถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันนำถุงยังชีพ จำนวน 1,700 ถุง มอบให้กับราษฎร และตัวแทน กว่า 1,000 คน โดยนำถุงยังชีพบรรทุกใส่เรือหางยาวกลับไปยังหมู่บ้านต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ชาวบ้านต้องใช้เรือหางยาวเท่าที่มีอยู่ บรรทุกถึงยังชีพ เพราะสะพานยังใช้การไม่ได้ ขณะที่ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด ได้ประสานหน่วยงานทหารช่าง จากกองทัพภาคที่ 3 ในการเข้าไปซ่อมแซมสะพานเพื่อให้ใช้การได้ในเร็วๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น