มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยปชช.ศรีสะเกษประสบภัยน้ำท่วม

ศรีสะเกษ - ผู้แทนพระองค์มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยราษฎรประสบภัยน้ำท่วมศรีสะเกษ เผยสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 5 อำเภอยังทรงตัว ชาวนาน้ำตาร่วงข้าวจมน้ำเน่าเสียหายแล้วหลายหมื่นไร่ ขณะเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษหนีไม่พ้นน้ำ “ลำห้วยสำราญ” เอ่อเข้าท่วมแล้ว 3 ชุมชน ด้านผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ แจ้งเตือนปชช. ฝนตกหนักบนเทือกเขาพนมดงรักหวั่นทะลักท่วมระลอก 2

วันนี้ (15 ก.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บริเวณหน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลโคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา)ยามยาก สภากาชาดไทย ได้เป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงยังชีพพระราชทาน ให้กับประชาชนในเข ต ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย ที่ประสบภัยน้ำท่วม แบ่งเป็นพระสงฆ์จำนวน 30 ถุง และ ราษฎรจำนวน 1,000 ถุง โดยมีนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับและร่วมมอบถุงพระราชทานในครั้งนี้

นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา)ยามยาก สภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์ กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 10-12 ก.ย. 2552 ได้เกิดฝนตกต่อเนื่องในเขตจ.ศรีสะเกษ ทำให้น้ำในลุ่มน้ำห้วยทับทันและลุ่มน้ำห้วยสำราญ เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรในเขต อ.ออุทุมพรพิสัย จำนวน 4 ตำบลได้แก่ ต.โคกจาน ต.ทุ่งไชย ต.ก้านเหลือง และต.แข้ รวม 20 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตร 7,700 ไร่ ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้ จำนวน 2,345 ครัวเรือน

ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประธานมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงห่วงใยราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน ทรงโปรดให้นำเอาถุงพระราชทานมามอบให้แก่ประชาชนชาวศรีสะเกษที่ประสบภัยน้ำท่วมและตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมภาพรวมในพื้นที่ 5 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ ประกอบด้วย อ.ขุนหาญ อ.ขุขันธ์ อ.อุทุมพรพิสัย อ.ปรางค์กู่ และ อ.เมืองศรีสะเกษ ล่าสุดขณะนี้ระดับน้ำท่วมยังคงทรงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้านหลายแห่งในเขต ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย ทำให้ชาวบ้านต้องพากันเดินลุยน้ำเพื่อสัญจรไปมาขณะที่พระสงฆ์ต้องลุยน้ำเดินบิณฑบาต

นอกจากนั้นน้ำที่ท่วมเป็นเวลานานร่วม 10 วัน ทำให้ต้นข้าวที่ถูกน้ำท่วมในเขต 5 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ เน่าตายเสียหายแล้วหลายหมื่นไร่ และยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง

นายปอง บุดดาวงษ์ อายุ 74 ปี ชาวบ้านยาง ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้นาของตนที่ต้นข้าวกำลังโตถูกน้ำท่วมเน่าตายหมดแล้วทั้ง 20 ไร่ ทำให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะได้ลงทุนทำนาไปหมดแล้วหลายหมื่นบาท ทั้งค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าหญ้า และค่าจ้างแรงงานช่วยดำนา ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความลำบากมาก

ขณะเดียวกันในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ปรากฏว่า น้ำได้ไหลเอ่อเข้าไปท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งลำห้วยสำราญ ต้องขนข้าวของหนีน้ำท่วมกันอย่างโกลาหล ซึ่งขณะนี้น้ำท่วมเอ่อเข้าท่วมแล้วหลายชุมชน เช่น ชุมชนโนนสวรรค์ ชุมชนหนองหัวหมู และ ชุมชนสะพานขาว โดยระดับน้ำยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ อ.เมืองศรีสะเกษ ต้องรองรับน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย – กัมพูชา

ทางด้านนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวภายหลังเป็นตัวแทนรับมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค จากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรเอกชน ที่ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในเขต 5 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษว่า ทางจังหวัดฯ ได้แจ้งเตือนภัยประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้รับรายงานว่า มีฝนตกหนักบริเวณเทือกเขาพนมดงรักและที่ราบเชิงเขา ด้าน อ.ภูสิงห์ วัดปริมาณน้ำได้มากกว่า 30 มิลลิเมตร อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมตามแนวลุ่มน้ำในพื้นที่ อ.ขุนหาญ, ภูสิงห์ , ขุขันธ์ และ อ.วังหินเป็นระลอกที่ 2 ได้

นอกจากนั้น ได้เร่งดำเนินการเยียวยาความเดือดร้อน ด้วยการนำเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบให้ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมบริหารจัดการรักษาระดับน้ำของแม่น้ำมูลให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อให้การเร่งระบายน้ำจากลำห้วยต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น