การเมืองท้องถิ่นโคราชบ้านเกิด“บุญจง” เดือด ! บุกยิงดับ “ว่าที่นายกอบต.” ด่านเกวียน

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- การเมืองท้องถิ่นโคราช บ้านเกิด“บุญจง” มท.2 เดือด! คนร้ายบุกยิงอุกอาจ “ว่าที่นายก อบต.” ด่านเกวียนดับคาบ้านพัก ขณะสังสรรค์ กับเพื่อนและญาติพี่น้อง ก่อนกกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเป็นทางการวันนี้ (6 ต.ค.) ด้านตำรวจตั้ง 3 ปมสังหารโหดเหตุขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น-ส่วนตัว-ชู้สาว ชี้คนร้ายเหิมก่อเหตุอุกอาจสะเทือนขวัญ ปชช. เร่งตามล่ามาดำเนินคดีโดยเร็ว

วันนี้ (5ต.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. เกิดเหตุบุกยิงกันด้วยอาวุธปืนที่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 6 บ้านหนองบอน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นท้องที่อำเภอบ้านเกิดของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 1 ราย คือ นายมงคล แตะกระโทก อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนจำนวนหลายนัดเข้าที่บริเวณหน้าอก ลำตัว และเสียชีวิตในขณะนำส่งโรงพยาบาล ป.แพทย์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ท่ามกลางความตกใจญาติพี่น้อง และ ภรรยาพากันร้องไห้ระงม

พ.ต.อ.พงษ์เดช พรหมมิจิตร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา และได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นอันดับ 1 จากผู้สมัครฯ ทั้งหมด 3 คน ซึ่งทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการตามเงื่อนไขครบกำหนด 30 วันหลังเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.)

ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุนายมงคล แตะกระโทก ผู้ตายกำลังนั่งสังสรรค์กับเพื่อนและญาติพี่น้องประมาณ 4-5 คนอยู่บริเวณด้านข้างบ้านพัก มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 1 คน ได้มาซุ่มยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 มม. เข้าใส่นายมงคล ที่บริเวณหน้าอกจำนวน 3-5 นัด ก่อนหลบหนีไปท่ามกลางความมืด ซึ่งผู้ที่อยู่ร่วมวงสังสรรค์ต่างแตกตื่นหลบกระสุนปืนและไม่มีใครเห็นคนร้ายแต่อย่างใด

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนตกอยู่จำนวน 2 หัว เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และทำการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อสันนิษฐานปมสังหารนายมงคล ว่าที่นายก อบต.ด่านเกวียน ไว้ 3 ประเด็น คือ ความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น , ความขัดแย้งส่วนตัว และ เรื่องชู้สาว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วต่อไป เนื่องจากเป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวกฎหมาย และถือเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน