xs
xsm
sm
md
lg

ชาวพุทธสัตหีบนับพันคนร่วมตักบาตรเทโวสานประเพณีออกพรรษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประชาชนทุกหมู่เหล่าในอำเภอสัตหีบ นับพันคนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวต้มหาง ข้าวสารอาหารแห้ง สืบสานประเพณีวันออกพรรษา สร้างความปลื้มปีติให้กับเหล่าบรรดาญาติพี่น้องที่ได้เห็นชายผ้าเหลืองบุตรหลาน ที่ได้บวชเรียนมาตลอดระยะเวลา 1 พรรษา

วันนี้ (5 ต.ค.) ที่วัดสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชน ชาวอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นับ 1,000 คน ได้ร่วมกันตักบาตรเทโว หรือเรียกกันเต็ม ๆ พิธีตักบาตรเทโวโรหนะ ด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง ข้าวต้มหาง น้ำดื่ม ส้มเขียวหวาน โดยมีขบวนวงกองยาวตีโห่ร้องแห่องค์พระประธานปางอุ้มบาตร และพระสงฆ์จากวัดสัตหีบ จำนวน 67 รูป สามเณร 1 รูป ออกรับบิณฑบาตจากพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า ตั้งแต่ภายในวัดสัตหีบ และเวียนรับบาตรไปโดยรอบตลาดสัตหีบ ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มปิติให้กับเหล่าบรรดาญาติพี่น้อง ที่ได้เห็นชายผ้าเหลืองหลังบุตรหลานได้เข้าบวชจำพรรษาภายในวัดมาตลอดระยะเวลา 1 พรรษา

สำหรับประเพณีตักบาตรเทโว ย่อมาจากคำว่า เทโวโรหนะ ซึ่งแปลว่าการหยั่งลงจากเทวโลก หมายถึงการเสด็จลงมาเทวโลกของพระพุทธเจ้า ตามตำนานกล่าวว่า เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว ทรงเทศนาโปรดประชาชนในแคว้นต่างๆ ของอินเดียตอนเหนือ ตั้งแต่เมืองราชคฤห์ เมืองพาราณสี เมืองสาวัตถี ตลอดถึงเมืองกบิลพัสดุ์ ซึ่งเป็นบิตุภูมิของพระองค์ ทรงเทศนาโปรดพระประยูรญาติทั้งหลายถ้วนหน้า แล้วทรงปรารถนาจะสนองพระคุณมารดา ซึ่งหลังประสูติพระองค์ ได้ 7 วัน ก็สิ้นพระชนม์ และได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิต

ฉะนั้น ในพรรษาที่ 7 หลังจากตรัสรู้พระพุทธองค์จึงเสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่พรรษาหนึ่ง

การตักบาตรเทโวนี้ บางวัดทำในวันออกพรรษา คือ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11บางวัดก็ทำในวันรุ่งขึ้น คือวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ทั้งนี้ แล้วแต่ความตกลงร่วมใจทั้งทางวัดและทางบ้าน พิธีที่ทำนั้นทางวัดอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานในบุษบก ซึ่งตั้ง อยู่บนล้อเลื่อนหรือคานหาม มีบาตรขนาดใหญ่ใบหนึ่งตั้งไว้หน้าพระพุทธรูป มีคน ลากล้อเลื่อนไปช้า ๆ นำหน้าพระสงฆ์ สามเณร ซึ่งถือบาตรเดินเรียงไปตามลำดับ พุทธศาสนิกชนต่างก็นำข้าว อาหารหวานคาว มาเรียงรายกันอยู่เป็นแถวตามแนวทางที่รถบุษบกเคลื่อนผ่าน คอยตักบาตร อาหารที่นิยมตักในวันนั้น

นอกจากข้าวและอาหารคาวหวานธรรมดาแล้วก็จะมีข้าวต้มลูกโยนด้วย ซึ่งบางท่านสันนิษฐานว่าในครั้งนั้นผู้คนรอใส่บาตรกันแออัดมาก เข้าไม่ถึงพระ จึงใช้ข้าวก่อ หรือปั้นโยนลงบาตร ซึ่งในปัจจุบันที่เรารู้จักก็คือข้าวต้มหางนั่นเอง



กำลังโหลดความคิดเห็น