บุรีรัมย์ - เกิดเหตุรถโดยสารประจำทางสายพัทยา-อุบลฯ บรรทุกผู้โดยสารเต็มคันซิ่งฝ่าสายฝน ถนนลื่นเสียหลักพลิกคว่ำตกคลองจมน้ำข้างทาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ผู้โดยสารต่างช่วยกันทุบกระจกรถหนีตายอลหม่าน บาดเจ็บระนาว 50 คน สาหัส 2 ราย
วันนี้ ( 3 ต.ค.) เมื่อเวลา 06.30 น. ร.ต.ท.ธงชัย ตอพิมาย ร้อยเวรฯ สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ พลิกคว่ำตกคลองน้ำข้างทาง ที่บริเวณหลักกิโลเมตร ที่ 12 – 13 บ.หนองม้า – หนองตาหล่า ต.ทะเมนชัย ถนนสายลำปลายมาศ - บุรีรัมย์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ชีพ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทะเมนชัย
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณหลักกิโลเมตร ที่ 12 – 13 บ.หนองม้า – หนองตาหล่า พบรถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ของ บริษัทศรีมงคลทัวร์ สายพัทยา – อุบลราชธานี สีฟ้าขาว หมายเลขข้างรถ 589 – 14 ทะเบียน 10 – 2282 กรุงเทพฯ สภาพพลิกคว่ำตัวรถด้านซ้ายจมอยู่ในคลองน้ำข้างทาง ลึกประมาณ 30 เซนติเมตร(ซม.) และพบผู้โดยสารกำลังทุบกระจกรถหนีเอาตัวรอดกันอลหม่าน เนื่องจากประตูฉุกเฉินไม่ทำงาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ อบต.ทะเมนชัย และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ จึงได้ช่วยกันลำเลียงผู้โดยสารที่ติดอยู่ภายในรถ ออกมาทางกระจกที่ผู้โดยสารทุบแตก
จากอุบัติดังกล่าว ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถได้รับบาดเจ็บรวม 50 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยได้นำส่งโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนที่เหลือบาดเจ็บเล็กน้อยและโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ต่อมาพนักงานได้ประสานรถโดยสารประจำทางสาย นครราชสีมา – สุรินทร์ มาขนถ่ายผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไปส่งยังจุดหมายปลายทาง
จากการสอบถาม นายเหมือนสิทธิ อายุ 48 ปี คนขับรถโดยสารคันดังกล่าว ให้การว่า ได้บรรทุกผู้โดยสารเต็มคัน เดินทางออกจากพัทยา จ.ชลบุรี เวลาประมาณ 21.00 น. (2 ต.ค.) มุ่งหน้าสู่ปลายทางที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งระหว่างทางที่ขับรถรถมาได้มีฝนตกตลอด จนถึงบริเวณที่เกิดเหตุทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำตกคลองน้ำข้างทาง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากฝนตกถนนลื่น จึงทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำตกลงไปในคลองน้ำข้างทาง อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง