พิษณุโลก - นิสิตสาวประเภทสอง มน. โวย! หมอทำหน้าอกไม่เท่ากัน หลังทำศัลยกรรมเสร็จ ใส่ซิลิโคนคนละขนาด เพิ่งรู้ เลยเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหาย
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพิษณุโลกได้รับข้อร้องเรียนจากนิสิตสาวประเภทสอง มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก รายหนึ่งว่า ไปทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าทำเสร็จแล้วหน้าอกออกมาไม่เท่ากัน เมื่อกลับไปปรึกษาหมอหลายครั้ง หมอก็ปัดความรับผิดชอบ เลยต้องแจ้งสื่อ
“น้องกุ๊ก” (นามสมมติ) บอกว่า เธออายุ 21 ปีเป็นนิสิตปีที่ 3 เป็นสาวประเภทสอง ช่วงพฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา เก็บเงินได้ก็นำไปทำหน้าอกหรือศัลยกรรมที่คลินิกแห่งหนึ่งในภาคเหนือ ตกลงกับหมอว่าผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นผิวทรายสองข้าง ขนาด 300 ซีซี เป็นซิลิโคนมือสอง (จากลูกค้ารายหนึ่งเปลี่ยนไซส์) กระทั่งผ่าตัดแล้วเสร็จ ผลปรากฏว่าหน้าอกสองข้างออกมาไม่เท่ากัน จึงปรึกษาคุณหมอศัลยกรรม กลับบอกว่าปกติของการเสริมหน้าอกที่จะออกมาไม่เท่ากัน พร้อมกับแนะใส่เสื้อชั้นในกระชับทรง
หลายเดือนต่อมาทนไม่ไหวเมื่อมีคนทักมากจึงตัดสินใจไปปรึกษาหมอรายใหม่ที่กรุงเทพฯ (ประตูน้ำโพลีคลินิก) เพื่อแก้ไข เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2552 ผลปรากฏว่าหมอคนเดิมใส่ให้ไม่เท่ากัน คือ ขวาเป็นซิลิโคนผิวทราย ขนาด 290 ซีซ้ายเป็นซิลิโคนผิวเรียบ ขนาด 325 ซีซี เท่ากับว่า ผิดข้อตกลงผ่าตัดเสริมหน้าอกซิลิโคนขนาด 300 ซีซี
ปัจจุบันหลังผ่าตัดใหม่นำซิลิโคนขนาด 300 ซีซีใส่เข้าไปแล้วก็มั่นใจมากขึ้น หน้าอกเท่ากัน สำหรับหมอรายเก่า ตนโทรศัพท์ไปถาม หมอกลับบอกว่าช่วงผ่าตัดผู้ช่วยแพทย์บอกว่าซิลิโคนข้างหนึ่งเกิดเสียหายจึงใส่ให้ไปก่อน ทำให้ตนเสียความรู้สึก ทำไมหมอไม่บอกลูกค้าตั้งแต่แรก ไม่ยอมบอกความจริง ไม่มีจริยธรรมทางการแพทย์ จะเรียกร้องค่าเสียหายหมอคนแรก 100,000 บาท เพราะตนต้องเสียเงินทั้งค่าทำกับรายแรก 28,000 บาท ค่าทำศัลยกรรมกับคุณหมอรายใหม่ 45,000 บาท บวกค่าเสียเวลาเดินทางอีก
ล่าสุด หมอรายเดิมบอกว่าจะจ่ายเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ไปผ่าตัดครั้งแรก 28,000 บาทเท่านั้น แต่ตนเห็นว่าไม่เป็นธรรม ที่ผ่านมาตนก็เดินสายประกวดสาวประเภทสองทั่วประเทศ อุตส่าห์เก็บเงินรางวัลเพื่อทำศัลยกรรมเสริมความงาม ส่วนจะแจ้งความดำเนินคดีกับคุณหมอรายแรก แต่จะปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ก่อน
น้องกุ๊ก แนะทิ้งท้ายอีกว่า ใครคิดจะทำศัลยกรรมก็ควรทำสัญญาว่าเพิ่มเป็นไซส์เท่าไหร่ อย่าหลงเชื่อแค่เซ็นยินยอมให้ผ่าตัดเท่านั้น