ตราด - “อดีตนายก อบต.นนทรีย์” เผย 21 องค์กรท้องถิ่นตราดมีปัญหาเรื่องการจัดงบเหตุได้รับการประกาศรับรองหลังจบปีงบประมาณ ส่งผลเงินถูกเก็บไว้สะสม
วันนี้ (2 ต.ค.) ร.ต.ท.คมพัชญ์ ทักษิณ อดีตนายกอบต.นนทรีย์ และ ตัวแทนนายก อบต.ในกรรมการกระจายอำนาจท้องถิ่น เปิดเผยว่า การเลือกตั้งนายก อบต.ใน จ.ตราด จำนวน 19 แห่ง และอีก 2 แห่ง เป็นเทศบาลตำบลนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศรับรองผลเนื่องจากจะต้องรอให้ครบ 30 วัน
ทั้งนี้จะประกาศได้ในวันที่ 6 ตุลาคม 2552 นี้ทำให้ส่งผลกระทบต่อการจัดงบประมาณ เนื่องจากงบ ประมาณปี 2552 ได้หมดเวลาการใช้จ่ายไปแล้วในวันที่ 30 กันยายน 2552 แต่การเลือกตั้งนายกอบต.มีขึ้นนั้น ยังไม่ได้มีการประกาศรับรองจาก กกต.ตราด จนส่งผลให้ผู้บริหารยังไม่มี ทำให้จัดสรรงบประมาณได้ไม่ทัน โดยเฉพาะงบอุดหนุนจำนวนมากที่ส่งมาให้ท้องถิ่น แต่ก็ใช้ไม่ได้เนื่องจากหมดระยะเวลาใช้ ทำให้เงินก้อน นี้ต้องตกลงไปอยู่ในงบสะสมของท้องถิ่นไม่สามารถนำมาใช้ได้
“มันเป็นระเบียบของ กกต.มีความเข้มงวดมากขึ้น จนนักเลือกตั้งตั้งตัวแทบไม่ได้ และการเลือกตั้งครั้งนี้ ท้องถิ่นทั้ง 19 แห่งและเทศบาล 2 แห่งจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เพราะไม่มีงบประมาณใช้ต้องรองบ ประมาณก้อนใหม่ที่รัฐบาลกำลังจะโอนมาให้ ซึ่งมันไม่ทันกับปัญหาของท้องถิ่นที่มีจำนวนมาก ซึ่งผมเห็นว่ากฎ ระเบียบนี้ควรจะต้องมีการแก้ไขใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์กับท้องถิ่นมากที่สุด”
อดีตนายก อบต.นนทรีย์ กล่าวว่า สำหรับผู้บริหารหน้าใหม่อาจจะเกิดปัญหาและอาจจะถูกครอบงำจาก ปลัด อบต.หรือข้าราชการประจำ นายก อบต.หรือผู้บริหารจึงควรที่จะปรับปรุงและแก้ไขในเรื่องนี้จะได้ไม่ถูก ครอบงำจากข้าราชการในระดับท้องถิ่น
วันนี้ (2 ต.ค.) ร.ต.ท.คมพัชญ์ ทักษิณ อดีตนายกอบต.นนทรีย์ และ ตัวแทนนายก อบต.ในกรรมการกระจายอำนาจท้องถิ่น เปิดเผยว่า การเลือกตั้งนายก อบต.ใน จ.ตราด จำนวน 19 แห่ง และอีก 2 แห่ง เป็นเทศบาลตำบลนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศรับรองผลเนื่องจากจะต้องรอให้ครบ 30 วัน
ทั้งนี้จะประกาศได้ในวันที่ 6 ตุลาคม 2552 นี้ทำให้ส่งผลกระทบต่อการจัดงบประมาณ เนื่องจากงบ ประมาณปี 2552 ได้หมดเวลาการใช้จ่ายไปแล้วในวันที่ 30 กันยายน 2552 แต่การเลือกตั้งนายกอบต.มีขึ้นนั้น ยังไม่ได้มีการประกาศรับรองจาก กกต.ตราด จนส่งผลให้ผู้บริหารยังไม่มี ทำให้จัดสรรงบประมาณได้ไม่ทัน โดยเฉพาะงบอุดหนุนจำนวนมากที่ส่งมาให้ท้องถิ่น แต่ก็ใช้ไม่ได้เนื่องจากหมดระยะเวลาใช้ ทำให้เงินก้อน นี้ต้องตกลงไปอยู่ในงบสะสมของท้องถิ่นไม่สามารถนำมาใช้ได้
“มันเป็นระเบียบของ กกต.มีความเข้มงวดมากขึ้น จนนักเลือกตั้งตั้งตัวแทบไม่ได้ และการเลือกตั้งครั้งนี้ ท้องถิ่นทั้ง 19 แห่งและเทศบาล 2 แห่งจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เพราะไม่มีงบประมาณใช้ต้องรองบ ประมาณก้อนใหม่ที่รัฐบาลกำลังจะโอนมาให้ ซึ่งมันไม่ทันกับปัญหาของท้องถิ่นที่มีจำนวนมาก ซึ่งผมเห็นว่ากฎ ระเบียบนี้ควรจะต้องมีการแก้ไขใหม่เพื่อให้เกิดประโยชน์กับท้องถิ่นมากที่สุด”
อดีตนายก อบต.นนทรีย์ กล่าวว่า สำหรับผู้บริหารหน้าใหม่อาจจะเกิดปัญหาและอาจจะถูกครอบงำจาก ปลัด อบต.หรือข้าราชการประจำ นายก อบต.หรือผู้บริหารจึงควรที่จะปรับปรุงและแก้ไขในเรื่องนี้จะได้ไม่ถูก ครอบงำจากข้าราชการในระดับท้องถิ่น
