ระยอง-ผู้ปกครอง เข้าแจ้งความครูประจำชั้น ป.2 ก่อเหตุลามกอนาจารลูก คลำกระโปรงตรงอวัยวะเพศลูกศิษย์ในห้องเรียน
วันนี้ (30 ก.ย.) นางสาวสมจีน โสวะกุน ชาวตำบลตะพง อำเภอเมืองระยอง ใกล้วัดปลวกเกตุ เป็นมารดาของเด็กหญิง อ้อย (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท หมู่ 5 ตำบลเชิงเนิน พร้อมด้วย นางสาวแพรวนภา กำแพงแก้ว อายุ 25 ปี อยู่บ้านเช่าใกล้วัดปลวกเกตุเช่นกัน และเป็นมารดาของ เด็กหญิงน้ำ (นามสมมุติ ) นักเรียนโรงเรียนเดียวกันอยู่ชั้นป.2 เข้าแจ้ง ร.ต.ท.รัฐไกร ประยูรศร ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง ลูกสาวถูก นายวันชัย สดใส คศ.2 ครูประจำชั้น ป.2 ใช้มือลูบคลำกระโปรงด้านหน้าบริเวณอวัยวะเพศ ในห้องเรียน ทั้ง 2 คนเหมือนกัน
ผู้ปกครองทั้ง 2 คน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา นางสาวนิยม ศรีเมือง อายุ 29 ปี เลขที่ 85 หมู่ 9 ตำบลนางิ้ว อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นมารดาของเด็กหญิงน้ำ นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนเดียวกัน เข้าแจ้ง ร.ต.อ.บัณฑิต เหล่าสุทธิวงศ์ ว่า ลูกสาวถูกครูประจำชั้นใช้ฝ่ามือสองข้างลูบคลำกระโปรงด้านหน้าตรงอวัยวะเพศหลายครั้ง หลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการเรียกครูประจำชั้นมาสอบสวนปากคำเบื้องต้น
บ่ายวันเดียวกัน นายธงชัย มั่นคง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระยองเขต 1 ได้เชิญผู้ปกครองเด็กทั้ง 3 คน มาให้ข้อเท็จจริงที่สำนักงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการให้ข้อมูลอยู่ นายธงชัย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์สั้นๆ ว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งย้าย นายวันชัย สดใส ครูประจำชั้น ป.2 มาประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระยองเขต 1 แล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมจะลงโทษทางวินัยแต่ถ้าผิดจริงต้องไล่ออก
ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บ้านเช่าใกล้วัดปลวกเกตุ และอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ลูกสาวของ นางสาวนิยม ซึ่งอาศัยอยู่กับ นางบุญโฮม หมอยา มีศักดิ์เป็นป้า เป็นเด็กที่มีหน้าตาดีคนหนึ่ง ถูกครูประจำชั้นชื่อเล่นครูเห ลูบคลำกระโปรงตรงอวัยวะเพศ และเข้าแจ้งความ พอตกเย็น นายศิวเทพ สมชิต ชาวบ้านรู้จักดี เป็น ผอ.โรงเรียนดังกล่าว มาพบผู้ปกครองเด็กและพูด ว่า มีเรื่องอะไรทำไมไม่ไปบอกเขา ทำไมต้องไปแจ้งความ ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง
ชาวบ้านถามย้อนกลับไปว่าเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เคยไปเล่าให้ฟังแล้วไม่ดำเนินการอย่างไร ปล่อยให้เกิดเรื่องซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก เพราะว่าครูเป็นเพื่อนกับ ผอ.ขนาดผู้ปกครองไปแจ้งความแล้ว ยังกล้าทำซ้ำอีก
นอกจากนี้ ในอดีตเป็นครูอยู่โรงเรียนวัดตะพงนอก ก็มีพฤติการณ์ทำนองเดียวกันกับเด็กนักเรียนที่มีหน้าตาดี และขอย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็ยังงประพฤติตัวไม่เหมาะสมที่จะมาเป็นครูอีกต่อไป ชาวบ้านพูดว่าอยากจะย้ายลูกมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เมื่อทราบข่าวก็กลัวจะโดนกับลูกสาว แต่ถ้าครูคนนี้ไม่อยู่ก็จะย้ายมาเรียนที่นี่จะได้อยู่ใกล้กัน เพราะตนมาทำงานที่นี่