ศรีสะเกษ - ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “เขาพระวิหาร” จ.ศรีสะเกษ ตึงเครียดสมใจ “ฮุนเซน” หลังประกาศกร้าวสั่งยิงฝ่ายไทยทันทีหากล้ำเขตแดน เผย ทหารเขมรเสริมกำลังตลอดแนวรอบเขาพระวิหาร เผชิญหน้าทหารไทย ต่างฝ่ายเตรียมพร้อมเต็มที่ แฉทหารกัมพูชาพร้อมอาวุธครบมือลอบรุกล้ำเขตแดนไทยด้านช่องโดนโป รอยต่อ อ.ภูสิงห์-ขุนหาญ กลางดึก เกิดปะทะ 5 นาที ก่อนเผ่นหนีกลับไป
วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ประกาศด้วยท่าทีแข็งกร้าวสั่งให้ทหารกัมพูชายิงฝ่ายไทยทันที หากรุกล้ำเขตแดนนั้น ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ
โดยเฉพาะที่บริเวณเขาพระวิหารซึ่งทหารกัมพูชา ได้มีการเสริมกำลังตลอดแนวรอบเขาพระวิหาร ตั้งแต่ช่องบันไดหักตามแนวไปจนถึงวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ และตามถนนคอนกรีต ที่สร้างจากบ้านโกมุย ฝั่งกัมพูชา ขึ้นมาตามหน้าผาเขาพระวิหาร จนถึงวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ บริเวณโคปุระชั้นที่ 1 ด้านทิศตะวันตกของประสาทพระวิหาร ที่ทหารไทยและกัมพูชาตรึงกำลังกันอยู่ในขณะนี้
อีกทั้งทหารกัมพูชาได้ทำการเตรียมพร้อม นำปืนกลและอาวุธหนักขึ้นมาตั้งฐานและหันปากกระบอกปืนมายังฐานปฏิบัติการทหารไทยที่ตรึงกำลังอยู่ ขณะที่ทหารไทยก็ได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในฐานที่มั่นของตัวเองเช่นกัน โดยนายทหารผู้คุมกำลังฝ่ายไทยในพื้นที่ได้พยายามลดความตึงเครียด ด้วยการเข้าไปพูดคุยพบปะกับนายทหารคุมกำลังของฝ่ายกัมพูชาตลอดเวลา แต่ไม่ได้ทำให้สถานการณ์รอบเขาพระวิหารลดความตึงเครียดลงแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ฝ่ายกัมพูชาได้อนุญาตให้ประชาชนนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา และชาวต่างประเทศขึ้นไปเที่ยวชมบนปราสาทพระวิหารได้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ของทหารกัมพูชา โดยทหารไทยได้เฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาอย่างใกล้ชิด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงกลางดึกคืน ที่ผ่านมา (28 ก.ย.) ปรากฏว่า ที่ช่องโดนโป แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านพื้นที่รอยต่อ อ.ภูสิงห์- อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ได้มีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธปืนครบมือลักลอบรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ซึ่งทหารไทยประจำการอยู่ที่บริเวณดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนยิงเตือน ทำให้เกิดการปะทะกันประมาณ 5 นาที จากนั้นกลุ่มทหารกัมพูชาได้ล่าถอยกลับไปในเขตแดนของตัวเอง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวนายทหารไทยที่คุมกำลังอยู่บริเวณช่องโดนโป ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นแล้ว คาดว่า เป็นกองกำลังที่เกี่ยวข้องกับขนส่งสินค้าของเถื่อนประเภทยาเสพติด และ ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า ทางฝ่ายทหารกัมพูชาได้เรียกตัวทหารจำนวนดังกล่าว ที่รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทยพร้อมอาวุธปืนครบมือไปลงโทษแล้ว