เชียงราย - จับล็อตใหญ่ยาบ้า 6 แสนเม็ดคาชายแดนแม่สาย ขณะใช้สิบล้อขนไปส่งให้นายทุนที่เชียงแสน ตำรวจ ปส.สอบเข้ม
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (29 ก.ย.) ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) จาก กก.2 บก.ปส.2 ได้นำกำลังตำรวจ ปส.จำนวนหนึ่งไปสกัดอยู่ตามชายแดนไทย-พม่า พื้นที่ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย หลังสืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบขนยาบ้าจำนวนมากจากพื้นที่ อ.แม่สาย ไปตามถนนสายแม่สาย-เชียงแสน เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน ต่อมาตำรวจ ปส.ชุดที่มี พ.ต.ท.ประสพชัย เสวกพันธุ์ เป็นรอง ผกก.2 บก.ปส.2 ได้พบเห็นรถยนต์สิบล้อไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 1 คัน แล่นไปตามถนนสายดังกล่าว เมื่อขับขี่ผ่าน ต.เกาะช้าง ได้เร่งความเร็วคล้ายจะทราบว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.คอยสกัดอยู่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.จึงได้นำรถยนต์ขับตามไปอย่างกระชั้นชิดกระทั่งถึงพื้นที่หมู่บ้านม่วงคำ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย เจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจใช้รถเข้าเบียดและยิงปืนใส่ล้อเพื่อสกัดเอาไว้ ทำให้รถสิบล้อดังกล่าวหยุดในที่สุด แต่หนึ่งในคนที่อยู่ด้านหน้ารถได้เปิดประตูรถและอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าข้างทางไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าตำรวจ ปส.สามารถจับกุมชายอายุประมาณ 50 ปี ได้จำนวน 1 คน ทราบชื่อต่อมาว่า นายเรวัตร ไชยสุรินทร์ อายุ 52 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่กระบะหลังรถก็พบยาบ้าจำนวนมากถูกบรรจุอยู่ในกระเป๋าวางซ้อนๆ กันหลายชั้น เมื่อแกะกระเป๋าออกดูปรากฏว่าพบยาบ้าทั้งหมดกว่า 600,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายเรวัตรไปทำการสอบสวน เพื่อขยายผลไปยังผู้บงการขนยาบ้าที่อยู่เบื้องหลัง
ในเบื้องต้นนายเรวัตให้การว่า ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของยาบ้าดังกล่าว เพียงแต่ได้รับจ้างขนยาจากนายทุนที่ชายแดนคนหนึ่งให้นำยาบ้าจากพื้นที่ อ.แม่สาย ไปส่งที่ อ.เชียงแสน ส่วนคนที่หลบหนีไปเป็นคนขับรถชื่อว่านายประสิทธิ์ชัย อุณหภพัฒนา อายุ 50 ปี โดยมีศักดิ์เป็นพี่ภรรยาของนายเรวัตร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ร่วมกับ สภ.แม่สาย และทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง นำหมายศาล จ.เชียงราย จึงเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 9 บ้านไม้ลุงขน หมู่ 10 ต.แม่สาย อ.แม่สาย ซึ่งนายประสิทธิ์ชัย อุณหพัฒนา อายุ 50 ปี อาศัยอยู่ โดยบ้านเลขที่ดังกล่าว แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายเพิ่มเติมรวมทั้งทราบว่านายประสิทธิ์ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมานานแล้ว เพราะญาติตักเตือนมาแล้วหลายครั้ง
เจ้าหน้าที่จึงนำควบคุมตัวนายเรวัตร พร้อมของกลางสืบสวบสอบสวนขยายผลตามกฎหมายต่อไป ล่าสุดตำรวจ ปส.ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดไปยังกรุงเทพฯ แล้ว
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (29 ก.ย.) ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) จาก กก.2 บก.ปส.2 ได้นำกำลังตำรวจ ปส.จำนวนหนึ่งไปสกัดอยู่ตามชายแดนไทย-พม่า พื้นที่ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย หลังสืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะลักลอบขนยาบ้าจำนวนมากจากพื้นที่ อ.แม่สาย ไปตามถนนสายแม่สาย-เชียงแสน เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน ต่อมาตำรวจ ปส.ชุดที่มี พ.ต.ท.ประสพชัย เสวกพันธุ์ เป็นรอง ผกก.2 บก.ปส.2 ได้พบเห็นรถยนต์สิบล้อไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 1 คัน แล่นไปตามถนนสายดังกล่าว เมื่อขับขี่ผ่าน ต.เกาะช้าง ได้เร่งความเร็วคล้ายจะทราบว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.คอยสกัดอยู่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.จึงได้นำรถยนต์ขับตามไปอย่างกระชั้นชิดกระทั่งถึงพื้นที่หมู่บ้านม่วงคำ ต.เกาะช้าง อ.แม่สาย เจ้าหน้าที่ได้ตัดสินใจใช้รถเข้าเบียดและยิงปืนใส่ล้อเพื่อสกัดเอาไว้ ทำให้รถสิบล้อดังกล่าวหยุดในที่สุด แต่หนึ่งในคนที่อยู่ด้านหน้ารถได้เปิดประตูรถและอาศัยความมืดวิ่งหลบหนีเข้าข้างทางไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าตำรวจ ปส.สามารถจับกุมชายอายุประมาณ 50 ปี ได้จำนวน 1 คน ทราบชื่อต่อมาว่า นายเรวัตร ไชยสุรินทร์ อายุ 52 ปี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่กระบะหลังรถก็พบยาบ้าจำนวนมากถูกบรรจุอยู่ในกระเป๋าวางซ้อนๆ กันหลายชั้น เมื่อแกะกระเป๋าออกดูปรากฏว่าพบยาบ้าทั้งหมดกว่า 600,000 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายเรวัตรไปทำการสอบสวน เพื่อขยายผลไปยังผู้บงการขนยาบ้าที่อยู่เบื้องหลัง
ในเบื้องต้นนายเรวัตให้การว่า ตนเองไม่ได้เป็นเจ้าของยาบ้าดังกล่าว เพียงแต่ได้รับจ้างขนยาจากนายทุนที่ชายแดนคนหนึ่งให้นำยาบ้าจากพื้นที่ อ.แม่สาย ไปส่งที่ อ.เชียงแสน ส่วนคนที่หลบหนีไปเป็นคนขับรถชื่อว่านายประสิทธิ์ชัย อุณหภพัฒนา อายุ 50 ปี โดยมีศักดิ์เป็นพี่ภรรยาของนายเรวัตร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.ร่วมกับ สภ.แม่สาย และทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง นำหมายศาล จ.เชียงราย จึงเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 9 บ้านไม้ลุงขน หมู่ 10 ต.แม่สาย อ.แม่สาย ซึ่งนายประสิทธิ์ชัย อุณหพัฒนา อายุ 50 ปี อาศัยอยู่ โดยบ้านเลขที่ดังกล่าว แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายเพิ่มเติมรวมทั้งทราบว่านายประสิทธิ์ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมานานแล้ว เพราะญาติตักเตือนมาแล้วหลายครั้ง
เจ้าหน้าที่จึงนำควบคุมตัวนายเรวัตร พร้อมของกลางสืบสวบสอบสวนขยายผลตามกฎหมายต่อไป ล่าสุดตำรวจ ปส.ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดไปยังกรุงเทพฯ แล้ว
